นางแคทเธอรีน รัสเซลล์ ผู้อำนวยการบริหารของกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติหรือยูนิเซฟ (UNICEF) เปิดเผยว่า ฉนวนกาซากลายเป็นสถานที่ที่อันตรายที่สุดในโลกสำหรับเด็ก ๆ
นางรัสเซลล์แถลงต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ว่ามีเด็กชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตกว่า 5,300 รายนับตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. ซึ่งเป็นวันที่กลุ่มติดอาวุธฮามาสโจมตีอิสราเอล โดยฮามาสได้สังหารประชาชนจำนวนมากและจับผู้คนไปเป็นตัวประกันซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเรือน ส่งผลให้อิสราเอลใช้ปฏิบัติการตอบโต้ด้วยการโจมตีฉนวนกาซาซึ่งมีประชากรอาศัยกว่า 2.3 ล้านคน
"ความเสียหายที่แท้จริงของสงครามล่าสุดระหว่างกลุ่มฮามาสและอิสราเอลจะสะท้อนให้เห็นอยู่ในชีวิตของเด็ก ๆ โดยเด็กส่วนหนึ่งเสียชีวิตจากความรุนแรง ขณะที่เด็กอีกส่วนหนึ่งมีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาลจากเหตุการณ์ครั้งนี้ หากไม่มีการยุติการสู้รบหรือการเปิดทางให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าถึงพื้นที่โดยสมบูรณ์ ผลกระทบจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ" นางรัสเซลล์กล่าวในระหว่างการบรรยายสรุปของสภาว่าด้วยสตรีและเด็กในฉนวนกาซา
กองทัพอิสราเอลได้ทิ้งระเบิดถล่มทั่วฉนวนกาซา พร้อมส่งรถถังและทหารเข้าบุกโจมตีและปิดล้อม
นางรัสเซลล์ระบุว่า "ฉนวนกาซากลายเป็นสถานที่ที่อันตรายที่สุดในโลกสำหรับเด็ก ผลกระทบของความรุนแรงที่กระทำต่อเด็กถือเป็นหายนะ และเป็นการกระทำที่ไม่สมเหตุสมผล"
อย่างไรก็ดี อิสราเอลได้บรรลุตกลงกับกลุ่มติดอาวุธฮามาสเพื่อพักการสู้รบเป็นเวลา 4 วัน เพื่อเปิดทางให้กับการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและปล่อยตัวประกันอย่างน้อย 50 รายที่ถูกฮามาสจับตัวไว้ เพื่อแลกกับการปล่อยตัวชาวปาเลสไตน์จำนวน 150 คน