หนังสือพิมพ์เดอะ ไทม์ส ออฟ อิสราเอล (The Times of Israel) รายงานว่า ชาวไทย 23 คนที่ถูกกลุ่มฮามาสจับกุมตัวในฉนวนกาซา อาจจะได้รับการปล่อยตัว ซึ่งเป็นการปล่อยตัวตามข้อตกลงที่มีอิหร่านเป็นคนกลางในการเจรจา และเป็นคนละส่วนกับข้อตกลงแลกเปลี่ยนตัวประกันที่ทำขึ้นระหว่างอิสราเอลและฮามาส
ไทม์ส ออฟ อิสราเอลระบุว่า รัฐบาลไทยได้จัดการเจรจาหลายครั้งเพื่อที่จะนำชาวไทยกลับบ้าน โดยเชื่อว่าชาวไทยเหล่านี้ถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกันในช่วงที่ฮามาสได้บุกโจมตีพื้นที่ตอนใต้ของอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. โดยเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ประชาชน 1,200 คนซึ่งรวมถึงแรงงานชาวไทย เสียชีวิต และมีประชาชนอีก 240 คนถูกจับเป็นตัวประกัน
อิสราเอลและฮามาสได้บรรลุข้อตกลงการหยุดยิงเป็นเวลา 4 วัน โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 07.00 น.ของวันนี้ (24 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่นหรือราว 12.00 น.ตามเวลาประเทศไทย โดยฮามาสจะเริ่มปล่อยตัวประกันกลุ่มแรกซึ่งประกอบด้วยผู้หญิงและเด็กชาวอิสราเอลจำนวน 13 คน เพื่อแลกกับการปล่อยตัวชาวปาเลสไตน์ที่ถูกขังอยู่ในเรือนจำของอิสราเอล ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงหยุดยิง และคาดว่าในขั้นตอนต่อไปนั้นฮามาสจะปล่อยตัวประกัน 50 คน และอิสราเอลจะปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์จำนวน 150 คน
ทางด้านเว็บไซต์ข่าวอัล-อาราบี อัลจาดีดรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากอียิปต์ว่า กลุ่มฮามาสอาจจะปล่อยตัวคนไทย 23 คน หลังจากอิหร่านเป็นคนกลางเจรจาระหว่างกลุ่มฮามาสและรัฐบาลไทย โดยอิหร่านเปิดเผยรายละเอียดกับไทยเกี่ยวกับเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ชาวไทยจะได้รับการปล่อยตัว ขณะที่ทางการไทยเชื่อว่ามีชาวไทยประมาณ 26 คนถูกจับเป็นตัวประกันนับตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ต.ค.
รายงานระบุว่า ข้อตกลงระหว่างไทยและฮามาส เป็นข้อตกลงคนละส่วนกับการทำข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสที่มีกาตาร์เป็นคนกลางเจรจา ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวได้เริ่มมีผลบังคับใช้แล้วเมื่อเวลา 07.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ 12.00 น.วันนี้ตามเวลาไทย