นางคาเธอรีน โคลอนนา รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส มีกำหนดพบปะกับรัฐบาลจีนในวันนี้ (24 พ.ย.) โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ทวิภาคี หลังจากที่สหภาพยุโรป (EU) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากฝรั่งเศส ดำเนินการสอบสวนการต่อต้านเงินอุดหนุนในรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีน
จุดประสงค์สำคัญในการเยือนกรุงปักกิ่งของนางโคลอนนาคือการหารือกับนายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน เกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน แต่การหารือเรื่องนี้มีแนวโน้มว่าจะถูกบดบังด้วยประเด็นการสอบสวนรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งรัฐบาลจีนได้ประณามว่าเป็นการกีดกันทางการค้า
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การพบปะกันดังกล่าวจะมีขึ้นไม่นานก่อนที่นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) และนายชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป จะเดินทางเยือนจีนในต้นเดือนธ.ค. เพื่อร่วมการประชุมสุดยอดกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ซึ่งจะเป็นการพบปะกันเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี หลังจากที่ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและ EU ย่ำแย่ลงในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ด้านประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส แย้งว่า EU ไม่ควรอ่อนข้อมากเกินไป และเรียกร้องให้มีการแข่งขันที่ยุติธรรมกับประเทศต่าง ๆ เช่น จีน โดยปธน.มาครงเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการผลักดันให้คณะกรรมาธิการยุโรปเปิดฉากการสอบสวนปมรถยนต์ไฟฟ้าจีน ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวในวงการการทูตของฝรั่งเศสระบุว่า นางโคลอนนาจะเจรจาเกี่ยวกับความปรารถนาของ EU เพื่อยืนยันอำนาจในการควบคุมกิจการทางเศรษฐกิจของตนต่อไป และเพื่อให้มั่นใจได้ว่าการค้ากับจีนจะเป็นไปอย่างสมดุลมากขึ้น
ทั้งนี้ จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 3 ของฝรั่งเศส อย่างไรก็ตาม มีความกังวลอย่างมากในกลุ่มบริษัทฝรั่งเศสและบริษัทอื่น ๆ ในยุโรป เกี่ยวกับความไม่สมดุลทางการค้าระหว่างจีนกับ EU, กฎระเบียบที่ไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการถ่ายโอนข้อมูลข้ามพรมแดน และรถยนต์ไฟฟ้าจีนราคาถูกของจีนที่หลั่งไหลเข้าสู่ตลาดยุโรปเป็นจำนวนมาก ซึ่งนับเป็นภัยคุกคามต่อผู้ผลิตรถยนต์ในยุโรป