เมตา แพลตฟอร์ม บริษัทแม่ของเฟซบุ๊กเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในวันอังคาร (28 พ.ย.) เกี่ยวกับนโยบายการโฆษณาทางการเมือง เช่น กำหนดให้ผู้ซื้อโฆษณาเปิดเผยข้อมูลหากมีการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการปรับแต่งรูปภาพหรือวิดีโอในโฆษณาการเมืองบางส่วน
ทั้งนี้ นายนิก เคลกก์ ประธานกิจการระดับโลกของเมตาได้อธิบายเกี่ยวกับนโยบายด้านการโฆษณาใหม่ในบล็อกโพสต์ โดยระบุว่า การออกนโยบายครั้งนี้คล้ายคลึงกับการจัดการกฎเกณฑ์ด้านโฆษณาในช่วงเลือกตั้งครั้งก่อน ๆ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แตกต่างออกไปสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าคือปัจจุบันนักโฆษณาหันมาใช้เทคโนโลยี AI กันมากขึ้นเพื่อสร้างผลงานรูปภาพและข้อความ โดยนายเคลกก์ระบุว่า นับตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป เมตาจะกำหนดให้นักโฆษณาเปิดเผยข้อมูลว่าพวกเขาได้ใช้ AI หรือเทคนิคการปรับแก้ทางดิจิทัลในการสร้างสรรค์หรือปรับเปลี่ยนโฆษณาทางการเมืองหรือสังคมหรือไม่ในบางกรณี ซึ่งถือเป็นกฎเกณฑ์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาหลังเมตาประกาศกฎเกณฑ์ครั้งก่อนในช่วงต้นเดือนพ.ย.
"กฎเกณฑ์ใหม่นี้ครอบคลุมกรณีที่โฆษณามีรูปภาพ หรือวิดีโอ หรือเสียงเสมือนจริงที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลรังสรรค์ขึ้นหรือปรับแต่งเพื่อเลียนแบบคนจริง ๆ แต่พูดหรือทำในสิ่งที่คนคนนั้นไม่ได้พูดหรือทำสิ่งนั้นจริง ๆ" นายเคลกก์กล่าว "ขณะเดียวกันยังครอบคลุมกรณีที่โฆษณาบรรยายถึงบุคคลเสมือนจริง แต่ไม่มีอยู่จริงหรือเหตุการณ์เสมือนจริง แต่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง, การปรับแต่งภาพเหตุการณ์จริง หรือการบรรยายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง แต่ไม่ได้ใช้ภาพ วิดีโอ หรือเสียงที่เกิดจากเหตุการณ์นั้นจริง ๆ"
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า นักวิจารณ์เคยออกมาถล่มเมตาในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2559 โทษฐานประสบความล้มเหลวในการลดการแพร่กระจายของข้อมูลเท็จบนแอปพลิเคชันต่าง ๆ ในเครือบริษัท เช่น เฟซบุ๊กและอินสตาแกรม ต่อมาในปี 2562 เมตาได้อนุญาตให้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลปรับแต่งวิดีโอของนางแนนซี เพโลซี อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ซึ่งทำให้เหมือนว่านางเพโลซีพูดไม่ชัดเนื่องจากมีอาการมึนเมา อย่างไรก็ตาม วิดีโอดังกล่าวไม่ได้เป็นการโฆษณาแต่อย่างใด