นางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีของสหรัฐกล่าวเมื่อวานนี้ (2 ธ.ค.) ว่า ชาวปาเลสไตน์ผู้บริสุทธิ์ถูกสังหารจำนวนมากในฉนวนกาซา เนื่องจากเครื่องบินรบและปืนใหญ่ของอิสราเอลยิงถล่มทางตอนใต้ของฉนวนกาซาเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังเส้นตายของการสงบศึกสิ้นกับกลุ่มฮามาสสิ้นสุดลง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ประชาชนชาวปาเลสไตน์แสดงความกังวลว่า การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลจะเป็นการโหมโรงของปฏิบัติการภาคพื้นดินบริเวณทางตอนใต้ของดินแดนปาเลสไสต์ ซึ่งจะทำให้ประชาชนถูกขังอยู่ในพื้นที่ที่เริ่มเหลือน้อย และผลักดันให้พวกเขาย้ายเข้าไปในอียิปต์
กระทรวงสาธารณสุขฉนวนกาซาเปิดเผยว่า ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 193 ราย บาดเจ็บกว่า 650 รายนับตั้งแต่การสงบศึกสิ้นสุดลงเมื่อเช้าวันศุกร์ (1 ธ.ค.) ซึ่งส่งผลยอดผู้เสียชีวิตชาวปาเลสไตน์ทะลุกว่า 15,000 รายนับตั้งแต่สงครามเริ่มต้น
นางแฮร์ริสแถลงต่อสื่อมวลชนว่า อิสราเอลมีสิทธิ์ที่จะปกป้องตัวเอง แต่ต้องเคารพกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายมนุษยธรรม โดยระบุว่า "ชาวปาเลสไตน์ผู้บริสุทธิ์ถูกสังหารมากเกินไปแล้ว"
"ขนาดความเสียหายของพลเรือน รวมถึงภาพและวิดีโอที่ส่งมาจากฉนวนกาซานั้นช่างเลวร้ายอย่งมาก" นางแฮร์ริสกล่าว
นอกจากนี้ นางแฮร์ริสยังกล่าวถึงวิสัยทัศน์ของสหรัฐต่อฉนวนกาซาหลังจากความขัดแย้งว่า ประชาคมระหว่างประเทศจะต้องสนับสนุนการฟื้นฟูและกองกำลังความมั่นคงปาเลสไตน์จะต้องมีความแข็งแกร่งมากขึ้น
นางแฮร์ริสกล่าวว่า "เราต้องการเห็นฉนวนกาซาและเวสต์แบงก์ที่เป็นหนึ่งเดียวภายใต้องค์การบริหารแห่งชาติปาเลสไตน์ เสียงและความปารถนาของชาวปาเลสไตน์จะต้องเป็นความสำคัญหลักของความพยายามนี้" พร้อมย้ำว่า ฉนวนกาซาไม่ควรถูกควบคุมโดยกลุ่มฮามาสอีกต่อไป
ทั้งนี้ องค์การบริหารแห่งชาติปาเลสไตน์ (PA) ที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตกได้เข้ามาปกครองพื้นที่บางส่วนของเวสต์แบงก์ ขณะที่กลุ่มฮามาสยึดอำนาจฉนวนกาซาเมื่อปี 2550 จากพรรคฟะตะห์ของประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส ผู้นำปาเลสไตน์ และได้ปกครองฉนวนกาซานับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา