ทั้งนี้ นายเวสลีย์ โฮลเซอร์ โฆษกสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงพนมเปญกล่าวถึงกรณีเรือรบจีนในวันนี้ (7 ธ.ค.) ว่า "ชาวกัมพูชา ประเทศข้างเคียง อาเซียน และภูมิภาคอื่น ๆ จะได้รับประโยชน์จากความโปร่งใสของกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในฐานทัพเรือเรียม (Ream)"
นายโฮลเซอร์ตอบคำถามของสำนักข่าวบลูมเบิร์กโดยระบุว่า "สหรัฐและประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่างแสดงความกังวลมาโดยตลอดเกี่ยวกับเจตนา ลักษณะ และขอบเขตของการก่อสร้างฐานทัพเรือเรียม" ซึ่งรวมถึงบทบาทของกองทัพจีนในกระบวนการก่อสร้างและการใช้งานฐานทัพแห่งนี้ในอนาคต
สถานีวิทยุเรดิโอ ฟรี เอเชีย (Radio Free Asia) รายงานเมื่อวันอังคาร (5 ธ.ค.) ว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เรือจีนหลายลำกลายเป็นเรือรบต่างชาติกลุ่มแรกที่เข้าเทียบท่าในฐานทัพเรือเรียม ซึ่งนายเตีย เซยฮา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชาระบุผ่านโซเชียลมีเดียในวันอาทิตย์ (3 ธ.ค.) ว่า เขาได้เยี่ยมเยียนเรือรบจีนเหล่านั้น "ก่อนการฝึก"
อนึ่ง จีนได้ให้การสนับสนุนความเคลื่อนไหวของกัมพูชาในการพลิกโฉมฐานทัพเรือแห่งดังกล่าวซึ่งตั้งอยู่ในอ่าวไทย อันเป็นความพยายามที่ผู้สังเกตการณ์ระบุว่ามีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ต่อการปกครองทางทะเลของกัมพูชา ขณะที่สหรัฐระบุว่า ฐานทัพเรือเรียมอาจเป็นฐานทัพนอกประเทศแห่งแรกของจีนในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก โดยในช่วงปลายปี 2565 ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐได้ออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่กองทัพจีนอาจดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ในฐานทัพเรือเรียม