สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนามเปิดเผยว่า การลงทุนของจีนในเวียดนามเติบโตขึ้นอย่างมากในปีนี้ ในขณะที่การใช้จ่ายและการค้าของสหรัฐชะลอตัวลง โดยทั้งจีนและสหรัฐต่างพยายามเพิ่มอิทธิพลของตนในเวียดนาม
เวียดนาม ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตและประเทศยุทธศาสตร์ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีที่ตั้งทอดยาวไปตามแนวทะเลจีนใต้ ได้กลายเป็นส่วนสำคัญของห่วงโซ่อุปทานระดับโลกในด้านการประกอบชิ้นส่วน ซึ่งมักพึ่งพาส่วนประกอบจากจีนและผู้บริโภคในสหรัฐ
นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ประสบความสำเร็จในการยกระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับเวียดนามในการเดินทางเยือนกรุงฮานอยเมื่อเดือนก.ย. หลังจากการทุ่มเทอย่างเต็มที่ตลอด 1 ปี เพื่อผลักดันสหรัฐให้ขึ้นไปอยู่ในระดับเดียวกับจีนในด้านความสัมพันธ์ทางการทูต
ด้านนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนจะเดินทางเยือนเวียดนามในสัปดาห์หน้า โดยมีเป้าหมายเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยนักการทูตกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า นายสีอาจตกลงที่จะประกาศว่าทั้งสองประเทศมีโชคชะตาร่วมกัน ซึ่งอาจตีความได้ว่าจีนได้ยกระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับเวียดนามอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนามระบุว่า ยอดการลงทุน (Registered Investment) จากจีนและฮ่องกงรวมกันเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 8.2 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2566 มากกว่า 2 เท่าจากช่วงเวลาเดียวกันในปี 2565 ซึ่งเป็นช่วงที่จีนดำเนินมาตรการควบคุมโควิด-19 อย่างเข้มงวด ด้วยเหตุนี้ จีนและฮ่องกงจึงเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม
ในทางกลับกัน ยอดการลงทุนของสหรัฐลดลงสู่ระดับ 0.5 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ จากระดับ 0.7 พันล้านดอลลาร์ในปี 2565 ส่งผลให้สหรัฐกลายเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่อันดับที่ 10 ตามหลังประเทศอื่น ๆ เช่น ซามัวและเนเธอร์แลนด์