สหรัฐยังคงกดดันอิสราเอลให้ดำเนินการมากขึ้นเพื่อปกป้องพลเรือนชาวปาเลสไตน์ในระหว่างการสู้รบอย่างรุนแรงกับกลุ่มติดอาวุธฮามาสในฉนวนกาซา แม้ว่าสหรัฐได้วีโต้ข้อเรียกร้องของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ให้มีการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาสในทันทีก็ตาม
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การสู้รบทวีความรุนแรงขึ้นและยอดผู้เสียชีวิตชาวปาเลสไตน์เพิ่มขึ้นในวันศุกร์ (8 ธ.ค.) โดยอิสราเอลโจมตีกาซาจากเหนือจรดใต้ในการทำสงครามกับกลุ่มฮามาสที่ยืดเยื้อมานาน 2 เดือนแล้ว
นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติประกาศว่า "เป็นฝันร้ายด้านมนุษยธรรม ไม่มีที่ใดในฉนวนกาซาที่ปลอดภัยสำหรับพลเรือน" โดยประกาศเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่สหรัฐทำการวีโต้มติของ UNSC ที่ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกส่วนใหญ่ซึ่งเรียกร้องให้มีการหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมในฉนวนกาซา
การวีโต้ดังกล่าวทำให้สหรัฐถูกโดดเดี่ยวทางการทูตใน UNSC ที่มีสมาชิก 15 ประเทศ โดยสมาชิก 13 ประเทศลงมติเห็นชอบร่างมติที่เสนอโดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ขณะที่สหรัฐคัดค้าน และอังกฤษงดออกเสียง
นายโรเบิร์ต วูด รองเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติกล่าวกับ UNSC ว่า "เราไม่สนับสนุนข้อเรียกร้องให้หยุดยิงซึ่งไม่มีความยั่งยืน และจะนำไปสู่การทำสงครามอีกครั้ง"
สหรัฐและอิสราเอลคัดค้านการหยุดยิง โดยระบุว่า จะเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มฮามาสเท่านั้น ขณะที่อิสราเอลให้คำมั่นว่าจะทำลายล้างกลุ่มฮามาสเพื่อตอบโต้ต่อการที่กลุ่มฮามาสบุกโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา