ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ แห่งฟิลิปปินส์ระบุว่า ตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาสถานการณ์ความตึงเครียดในทะเลจีนใต้นั้นนอกจากจะไม่ลดลงแล้วยังเพิ่มสูงขึ้นด้วย พร้อมเตือนว่าการที่จีนแสดงท่าทีแข็งกร้าวมากขึ้นได้สร้างความท้าทายต่อกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียอย่างแท้จริง
ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนญี่ปุ่นเมื่อวันเสาร์ (16 ธ.ค.) ปธน.มาร์กอสได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการสร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่งร่วมกับกลุ่มพันธมิตรที่มีทัศนคติเหมือนกัน ดังเช่นความร่วมมือไตรภาคีระหว่างฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น และสหรัฐ
"ผมต้องบอกว่าสถานการณ์ในช่วงหลายเดือนหรือหลายปีที่ผ่านมามีความตึงเครียดมากขึ้นแทนที่จะลดลง" ปธน.มาร์กอสกล่าวในขณะเดินทางเข้าร่วมการประชุมสุดยอดญี่ปุ่น-อาเซียน ณ กรุงโตเกียว
ขณะเดียวกัน ปธน.มาร์กอสระบุว่า ฟิลิปปินส์กำลังทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับประเด็นการสำรวจในทะเลจีนใต้เพื่อที่ว่าฟิลิปปินส์จะสามารถเริ่มโครงการสำรวจพลังงานใหม่ ๆ ในทะเลจีนใต้ได้ เพื่อผลิตพลังงานให้เพียงพอต่อความต้องการของประเทศ
เมื่อสัปดาห์ก่อน ฟิลิปปินส์กับจีนต่างกล่าวหาอีกฝ่ายว่าเป็นต้นเหตุของเหตุเรือชนกันใกล้พื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้ขณะที่ความตึงเครียดเกี่ยวกับการอ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่พิพาททวีความรุนแรงขึ้น
นอกเหนือจากฟิลิปปินส์แล้ว ประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน ได้แก่ เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย และบรูไนต่างก็อ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนบางส่วนในทะเลจีนใต้ ส่วนจีนอ้างกรรมสิทธิ์ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของทะเลจีนใต้ โดยทะเลจีนใต้นั้นเป็นเส้นทางการค้ามูลค่า 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี