นายคาเมรอน โธมัส-ชาห์ โฆษกสถานทูตสหรัฐประจำกรุงฮานอยเปิดเผยว่า สหรัฐจะร่วมมือกับเวียดนามอย่างใกล้ชิดต่อไป หลังจากที่เวียดนามประกาศกระชับสัมพันธ์กับจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งรวมถึงด้านกลาโหมและความมั่นคง โดยทั้งสหรัฐและจีนต่างกำลังแข่งขันเพื่อแย่งชิงอิทธิพลเหนือเวียดนาม
บรรดาผู้นำของเวียดนามได้ยกระดับความสัมพันธ์กับจีน ระหว่างที่นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เดินทางเยือนกรุงฮานอยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นเวลาเพียง 3 เดือน หลังจากที่เวียดนามได้ยกระดับความสัมพันธ์กับสหรัฐ ในขณะที่นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐเดินทางเยือนเวียดนาม ซึ่งนับเป็นความสำเร็จของนโยบายการทูตแบบ "ไผ่ลู่ลม (Bamboo diplomacy)" ของเวียดนาม ซึ่งเป็นการทูตแบบคล้อยตามและรับมือกับมหาอำนาจทั้งสอง โดยไม่เลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
แม้ว่าแถลงการณ์ร่วมระหว่างจีนและเวียดนามอาจถูกมองว่ามุ่งเป้ามายังสหรัฐโดยตรง แต่ความกังวลที่ว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะกระทบแผนกระชับสัมพันธ์กับเวียดนามยังคงไม่ชัดเจนมากนักจนถึงขณะนี้
นายโธมัส-ชาห์ กล่าวว่า "ความสัมพันธ์ของเรากับเวียดนามไม่เกี่ยวกับประเทศที่ 3 แต่อย่างใด "ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดของเรากับพันธมิตรจากเวียดนามในภาคส่วนต่าง ๆ ซึ่งรวมถึง สุขภาพ การศึกษา เทคโนโลยี และการค้า จะดำเนินต่อไปในอนาคตอันใกล้"
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของเวียดนามไม่ได้ตอบกลับคำขอความคิดเห็นจากสำนักข่าวรอยเตอร์เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว