สื่อรัฐบาลอิหร่านรายงานเมื่อวันอาทิตย์ (24 ธ.ค.) ว่า กองทัพเรืออิหร่านได้รับขีปนาวุธร่อนพิสัยไกล 1,000 กิโลเมตร (621 ไมล์) และเฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวน ท่ามกลางการกล่าวหาจากสหรัฐว่าอิหร่านใช้โดรนโจมตีเรือบรรทุกสารเคมีในมหาสมุทรอินเดีย
"ขีปนาวุธร่อนทาลาเยห์ (Talaeiyeh) ซึ่งมีพิสัยทำการมากกว่า 1,000 กิโลเมตร เป็นขีปนาวุธอัจฉริยะที่สามารถเปลี่ยนเป้าหมายในระหว่างการปฏิบัติภารกิจได้" พล.ร.ต.ชาห์ราม อิรานี ผู้บัญชาการกองทัพเรืออิหร่านระบุ
พล.ร.ต.อิรานีกล่าวว่า อิหร่านได้ขยายคลังสรรพาวุธของกองทัพเรือด้วยการเพิ่มยุทโธปกรณ์ใหม่ ๆ เช่น เฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวน, โดรน และขีปนาวุธทางทะเล พร้อมเสริมว่ายุทโธปกรณ์ทั้งหมดนี้ได้รับการออกแบบและผลิตโดยอุตสาหกรรมการทหารของอิหร่าน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แม้ว่านักวิเคราะห์ทางทหารบางส่วนในชาติตะวันตกมองว่าอิหร่านกล่าวเกินจริงถึงศักยภาพของตน แต่ขีปนาวุธและโดรนที่ผลิตโดยอิหร่านนับว่ามีบทบาทสำคัญในบรรดายุทโธปกรณ์ทางทหารของประเทศ
ด้านกระทรวงกลาโหมสหรัฐรายงานเมื่อวันเสาร์ (23 ธ.ค.) ว่า เรือบรรทุกสารเคมีของไลบีเรียในมหาสมุทรอินเดียถูกโจมตีด้วยโดรนซึ่งถูกส่งมาจากอิหร่าน เหตุการณ์ดังกล่าวตอกย้ำความตึงเครียดในภูมิภาคที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น และความเสี่ยงครั้งใหม่ต่อเส้นทางเดินเรือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการโจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ต.ค. และปฏิบัติการการตอบโต้ทางทหารของอิสราเอลในฉนวนกาซาในเวลาต่อมา
ทั้งนี้ อิหร่านได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของสหรัฐที่ระบุว่า อิหร่านมีส่วนเกี่ยวข้องกับการวางแผนโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดงโดยกลุ่มกบฏฮูตีของเยเมน ซึ่งเป็นกลุ่มที่อิหร่านให้การสนับสนุน