กระทรวงกลาโหมไต้หวันเปิดเผยในวันนี้ว่า ไต้หวันยังไม่เห็นสัญญาณความเคลื่อนไหวทางทหารครั้งใหญ่ของจีนในช่วงก่อนการเลือกตั้งของไต้หวันซึ่งจะมีขึ้นในเดือนหน้า แต่ไต้หวันกำลังเฝ้าติดตามจีนอย่างใกล้ชิด
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาของไต้หวันในวันที่ 13 ม.ค. 2567 จะตัวกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันและจีน โดยในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา จีนได้เพิ่มแรงกดดันทางทหารเพื่อย้ำการอ้างสิทธิอธิปไตยเหนือไต้หวัน
ขณะที่การเลือกตั้งใกล้เข้ามาถึง ไต้หวันได้รายงานข้อมูลเกี่ยวกับการพบเครื่องบินรบและเรือรบของจีนบริเวณรอบเกาะ รวมถึงบอลลูนที่ข้ามเส้นแบ่งเขตบนช่องแคบไต้หวัน แม้กองทัพไต้หวันจะประเมินเบื้องต้นว่าบอลลูนดังกล่าวมีจุดประสงค์ด้านอุตุนิยมวิทยาก็ตาม
พล.ต.ซุน ลี่ฟาง โฆษกกระทรวงกลาโหมไต้หวันกล่าวต่อสื่อมวลชนว่า "จนถึงตอนนี้ เรายังไม่เห็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าจีนกำลังเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ แต่ไม่มีอะไรในวันนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีวันพรุ่งนี้หรือวันมะรือนนี้ เราเฝ้าจับตาดูอยู่ตลอดเวลา"
ทางการจีนได้แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ชอบนายไล่ ชิงเต๋อ รองประธานาธิบดีไต้หวันที่เป็นตัวเก็งประธานาธิบดี โดยจีนมักจะประณามว่านายไล่เป็นผู้แบ่งแยกดินแดน และเตือนว่าความพยายามใด ๆ ก็ตามเพื่อทำให้ไต้หวันเป็นอิสระจากจีนนั้นหมายถึงสงคราม
นายไล่เสนอให้มีการเจรจากับจีนอยู่หลายครั้งแต่กลับถูกปฏิเสธมาโดยตลอด โดยนายไลย้ำว่า ไต้หวันเป็นประเทศเอกราชอยู่แล้ว ซึ่งไต้หวันมีชื่ออย่างเป็นทางการว่าสาธารณรัฐจีน (Republic of China)
ทั้งนี้ รัฐบาลสาธารณรัฐจีนได้หลบหนีไปยังเกาะไต้หวันในปี 2492 หลังจากพ่ายแพ้สงครามกลางเมืองให้กับพรรคคอมมิวนิสต์จีนของนายเหมา เจ๋อตุง ผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน