หน้าที่สำคัญอย่างหนึ่งของการเป็นรัฐมนตรีกลาโหมจีนคือการประสานงานกับกองทัพสหรัฐ เพื่อลดความเสี่ยงของการปะทะในเรื่องไต้หวันและทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นสองจุดเสี่ยงที่นายพลต่งวัย 62 ปี คุ้นเคยดี
ก่อนจะมาเป็นผู้บัญชาการกองทัพเรือแห่งกองทัพปลดปล่อยประชาชนและขึ้นเป็นนายพลเต็มตัวในปี 2564 นายพลต่งเคยเป็นรองผู้บัญชาการกองเรือทะเลตะวันออก ซึ่งเป็นแกนหลักของกองบัญชาการภาคตะวันออกในปัจจุบัน อันเป็นกำลังหลักที่รับผิดชอบเรื่องการรบกับไต้หวัน
นอกจากนี้ นายพลต่งยังเคยดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการกองบัญชาการภาคใต้ ซึ่งออกปฏิบัติการในทะเลจีนใต้ที่จีนอ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่ส่วนใหญ่
"นายพลต่งย่อมคุ้นเคยกับการจัดการกับสถานการณ์เผชิญหน้าระยะประชิดระหว่างกองทัพจีนกับสหรัฐ ซึ่งจะเป็นประโยชน์เมื่อเขาต้องบริหารจัดการวิกฤติระหว่างกองทัพทั้งสอง" ผู้ช่วยศาสตราจารย์หลี่ หมิงเจียง นักวิชาการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จากวิทยาลัยนานาชาติศึกษา เอส ราชา รัตนัม กล่าว
นายเหวินตี๋ ซ่ง นักรัฐศาสตร์และนักวิชาการไม่ประจำของศูนย์กลางจีนระดับโลกของสภาแอตแลนติก กล่าวว่า การเลือกนายพลต่งอาจเป็นสัญญาณว่ากำลังมีการกวาดล้างภายในกองทัพจรวดและกรมพัฒนายุทโธปกรณ์
อนึ่ง รัฐมนตรีกลาโหมสองคนก่อนหน้านี้ซึ่งมาจากสองหน่วยงานดังกล่าว ได้หายหน้าไปจากสาธารณชน โดยนายพลต่งเข้ามาแทนที่พล.อ.หลี่ ช่างฝู ซึ่งเคยเป็นหัวหน้ากรมจัดซื้อและวิจัยยุทโธปกรณ์ก่อนรับตำแหน่งรมว.กลาโหมในเดือนมี.ค.
ทั้งนี้ พล.อ.หลี่หายหน้าไปจากสาธารณชนตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค. โดยสำนักข่าวรอยเตอร์อ้างอิงแหล่งข่าวระบุว่า พล.อ.หลี่อยู่ระหว่างการถูกสอบสวนคดีทุจริตที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อและพัฒนายุทโธปกรณ์