กองบัญชาการกลางสหรัฐ (U.S.Central Command) หรือ CENTCOM ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า กองกำลังทหารของ CENTCOM สามารถยิงสกัดขีปนาวุธที่กลุ่มกบฏฮูตีโจมตีเรือบรรทุกสินค้าของบริษัทเมอส์ก (Maersk) ได้เป็นผลสำเร็จ และสามารถสังหารกบฏฮูตีได้หลายราย
แถลงการณ์ของ CENTCOM ระบุว่า ทหารของเรือพิฆาตยูเอสเอส เกรเวลี (USS Gravely) ได้ยิงสกัดขีปนาวุธแบบทิ้งตัว (ballistic missile) จำนวน 2 ลูกที่กลุ่มกบฏฮูตียิงเข้าใส่เรือ "เมอส์ก หางโจว (Maersk Hangzhou)" เมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ที่ผ่านมา (30 ธ.ค.) หลังจากลูกเรือเมอส์ก หางโจว ได้แจ้งว่าเรือถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธในขณะแล่นผ่านทะเลแดงตอนใต้และขอความช่วยเหลือ
จากนั้นในช่วงเช้าของวันอาทิตย์ (31 ธ.ค.) กลุ่มกบฏฮูตีพยายามโจมตีเรือเมอส์ก หางโจวซ้ำอีกครั้ง ด้วยการส่งเรือเล็กจำนวน 4 ลำเข้าประชิดและกบฏฮูตีพยายามที่จะบุกขึ้นไปบนเรือบรรทุกสินค้าลำดังกล่าว ส่งผลให้ลูกเรือตัดสินใจส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปยังกองบัญชาการสหรัฐ หลังจากนั้นไม่นาน เรือพิฆาตยูเอสเอส เกรเวลี และเฮลิคอปเตอร์จากเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส ดไวต์ ดี ไอเซนฮาวร์ (USS Dwight D. Eisenhower) ได้ตอบสนองเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยการส่งคำเตือนด้วยเสียงไปยังกลุ่มกบฎฮูตี แต่กลุ่มกบฏกลับตอบโต้ด้วยการใช้ปืนยิงเฮลิคอปเตอร์ จึงทำให้เจ้าหน้าที่บนเฮลิคอปเตอร์ยิงตอบโต้เพื่อป้องกันตนเอง และสามารถจมเรือเล็กของกบฏฮูตีได้ 3 ใน 4 ลำ และสังหารกบฏบนเรือเล็กทั้ง 3 ลำได้ทั้งหมด ส่วนเรือเล็กอีกลำหนึ่งสามารถหนีรอดไปได้
เหตุการณ์ล่าสุดนี้นับเป็นครั้งที่ 23 ที่กลุ่มกบฏฮูตีก่อเหตุโจมตีเรือบรรทุกสินค้านานาชาตินับตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย. 2566 และนับเป็นครั้งแรกที่กองทัพเรือของสหรัฐออกมายืนยันว่าสามารถสังหารนักรบของกลุ่มฮูตีนับตั้งแต่กบฏกลุ่มนี้ก่อเหตุโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดง
หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เมอส์ก (Maersk) ได้ตัดสินใจระงับการเดินเรือผ่านเส้นทางทะเลแดงเป็นเวลา 48 ชั่วโมง พร้อมระบุว่าลูกเรือทั้งหมดของเรือเมอส์ก หางโจว ปลอดภัย และเรือไม่ได้รับความเสียหายหรือถูกไฟไหม้ และสามารถเดินทางต่อไปยังพื้นที่ตอนเหนือของท่าเรือสุเอซ โดยเรือเมอส์ก หางโจว ได้บรรทุกตู้สินค้าจำนวน 14,000 ตู้และเดินทางมาจากประเทศสิงคโปร์
กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน เริ่มออกมาเคลื่อนไหวหลังจากอิสราเอลและกลุ่มฮามาสเปิดฉากการทำสงครามเมื่อวันที่ 7 ต.ค. โดยกบฏฮูตีอ้างว่าเป็นการตอบโต้อิสราเอลที่ใช้ปฏิบัติการทางทหารอย่างไร้มนุษยธรรมกับชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา และกดดันให้อิสราเอลยุติการใช้ปฏิบัติการดังกล่าวกับฮามาส พร้อมกับเตือนว่าจะโจมตีเรือทุกลำที่มุ่งหน้าไปยังอิสราเอลโดยไม่สนใจสัญชาติ เพื่อเป็นการแสดงออกถึงการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา