กรมศุลกากรและป้องกันชายแดน (CBP) ของสหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ (2 ม.ค.) ว่า สหรัฐจะเปิดจุดผ่านแดนตามกฎหมายระหว่างสหรัฐ-เม็กซิโกจำนวน 4 แห่งอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (4 ม.ค.) เนื่องจากการอพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายที่เคยอยู่ในระดับสูงนั้นได้ลดลงแล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถกลับมาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติได้มากขึ้น
CBP ระบุว่า สหรัฐจะกลับมาเปิดจุดผ่านแดนระหว่างประเทศในอีเกิลพาส รัฐเท็กซัส, จุดผ่านแดน 2 แห่งในรัฐแอริโซนา และจุดข้ามแดนอีกแห่งใกล้ ๆ แซนดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยจะยังคงจัดลำดับความสำคัญด้านความปลอดภัยบริเวณชายแดนต่อไปตามความจำเป็น
บรรดาเจ้าหน้าที่ชายแดนสหรัฐประสบปัญหาในเดือนธ.ค.ในการบริหารจัดการกับจำนวนผู้อพยพที่มีมากเกือบ 11,000 คนภายในวันเดียว ซึ่งเจ้าหน้าที่ทั้งในอดีตและปัจจุบันหลายคนคาดว่า เป็นระดับที่เกือบจะสูงสุดหรืออาจจะสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ทั้งเจ้าหน้าที่เม็กซิโกและสหรัฐให้คำมั่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้นเพื่อจัดการกับปัญหาการอพยพย้ายถิ่นที่ชายแดนร่วมกัน หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐได้เดินทางไปเม็กซิโกเพื่อพบกับนายอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ประธานาธิบดีของเม็กซิโก
ตามรายงานภายในของรัฐบาลสหรัฐ ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ชายแดนสหรัฐจับกุมผู้อพยพได้โดยเฉลี่ย 6,400 คนต่อวันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งจำนวนผู้อพยพดังกล่าวลดลงอย่างมากจากระดับก่อนวันคริสต์มาส
สมาชิกสภานิติบัญญัติในรัฐสภาสหรัฐยังคงหารือกันเกี่ยวกับข้อตกลงที่คาดว่าจะเป็นไปได้สำหรับการรวมมาตรการรักษาความปลอดภัยชายแดนที่เพิ่มขึ้นกับความช่วยเหลือของต่างประเทศ รวมถึงการระดมทุนทางทหารสำหรับยูเครน