เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ไม่มีแผนที่จะปลดนายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐ หลังจากที่เขาเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากกรณีที่ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลการรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นระยะเวลาหลายวัน แต่คณะบริหารของปธน.ไบเดนจะดำเนินการสอบสวนในกรณีขาดความโปร่งใส
นายจอห์น เคอร์บี โฆษกความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวกล่าวว่า ปธน.ไบเดนต้องการทำงานร่วมกับนายออสตินต่อไป เนื่องจากปธน.ไบเดนยอมรับผลงานที่โดดเด่นของนายออสตินในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม รวมถึงยกย่องคำแนะนำและความเป็นผู้นำของนายออสตินอย่างมาก
"สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับปธน.ไบเดนคือเรื่องสุขภาพและการฟื้นตัวของนายออสติน และท่านรอคอยที่นายออสตินจะกลับมาปฎิบัติหน้าที่ในเพนตากอนโดยเร็วที่สุด ตอนนี้ไม่มีแผนอื่นใดทั้งสิ้น นอกจากการที่นายออสตินจะดำรงตำแหน่งนี้ต่อไป" นายเคอร์บีกล่าวกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน
ก่อนหน้านี้ สมาชิกสภานิติบัญญัติสมาชิกสังกัดพรรครีพับลิกัน รวมถึงอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาเรียกร้องให้ถอดถอนนายออสติน เนื่องจากเขาไม่ยอมแจ้งให้ทำเนียบขาวและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงกลาโหมทราบทันทีเกี่ยวกับการเข้ารับการรักษาอาการป่วยในโรงพยาบาล
ทั้งนี้ นายออสติน วัย 70 ปี ได้เข้ารับการรักษาตัวในหออภิบาลผู้ป่วยวิกฤต (ICU) ณ ศูนย์การแพทย์ทหารแห่งชาติวอลเตอร์ รีด ในวันปีใหม่ แต่ปธน.ไบเดนและผู้ช่วยของเขาไม่ได้รับแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพของนายออสตินจนกระทั่ง 3 วันต่อมา
นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมสหรัฐไม่ได้ประกาศเกี่ยวกับการรักษาตัวนายออสติน จนกระทั่งถึงวันศุกร์ที่ 5 ม.ค. และยังไม่มีการเปิดเผยสาเหตุของการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
ทางด้านนายออสตินได้ออกมาตอบสนองต่อข้อกังวลด้านความโปร่งใส โดยเขาได้แถลงในวันถัดมาว่า "ผมทราบดีว่าผมน่าจะทำได้ดีกว่านี้เพื่อให้สาธารณชนได้รับแจ้งอย่างเหมาะสม ผมตั้งใจที่จะปรับปรุงให้ดีขึ้น แต่ผมจำเป็นต้องพูดว่า นี่คือขั้นตอนทางการแพทย์ของผม และผมจะขอรับผิดชอบอย่างเต็มที่สำหรับการตัดสินใจเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูล"