รัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่มเงินอุดหนุนฟื้นฟูความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหว

รัฐบาลญี่ปุ่นกำหนดให้แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในจังหวัดอิชิกาวะและพื้นที่ใกล้เคียงในภาคกลางของญี่ปุ่นเมื่อวันปีใหม่เป็น "ภัยพิบัติความรุนแรงสูง" ในวันนี้ (11 ม.ค.) พร้อมเพิ่มเงินอุดหนุนสำหรับงานบูรณะชุมชนที่ได้รับผลกระทบ

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ทางการญี่ปุ่นตั้งเป้าที่จะเพิ่มการสนับสนุนทางการเงินให้แก่หน่วยงานท้องถิ่นในการดำเนินมาตรการต่าง ๆ เช่น การเร่งความเร็วในการซ่อมแซมถนนและพื้นที่เกษตรกรรมที่เสียหายจากแผ่นดินไหวขนาด 7.6 แมกนิจูด ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 213 ราย และสูญหาย 52 ราย โดยการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้เคราะห์ร้ายและการดูแลสุขภาพของพวกเขากลายเป็นงานที่มีความจำเป็นเร่งด่วน

ทั้งนี้ ยอดผู้เสียชีวิตสะสมในตอนนี้รวมถึงผู้เสียชีวิต 8 รายที่เชื่อว่าเกิดจากปัญหาสุขภาพที่ทรุดโทรมลงหลังเกิดแผ่นดินไหว โดยในบางกรณีเกิดจากอาการเครียดเกี่ยวกับการอพยพ

นอกจากนี้ รัฐบาลจังหวัดอิชิกาวะได้ออกมาเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกันในวันนี้ โดยเปิดตัวหน่วยงานบังคับใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อในศูนย์อพยพ

กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นระบุว่า มีรายงานการตรวจพบโรคทางเดินหายใจ เช่น โควิด-19 และโรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza) ราว 70 ครั้ง และอาการป่วยโรคระบบทางเดินอาหาร ซึ่งรวมถึง การติดเชื้อโนโรไวรัส (norovirus) ประมาณ 40 ครั้ง นับจนถึงวันอังคาร (9 ม.ค.)

ทั้งนี้ มีประชาชนราว 25,000 คนที่ยังคงอยู่ในศูนย์อพยพเกือบ 400 แห่งในจังหวัดอิชิกาวะเมื่อบ่ายวานนี้ (10 ม.ค.) จากแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 1 ม.ค. ซึ่งรุนแรงที่สุดในระดับ 7 ตามมาตรวัดความรุนแรงของแผ่นดินไหวในประเทศ