KCNA รายงานว่า การยิงขีปนาวุธครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบความน่าเชื่อถือของเครื่องยนต์เชื้อเพลิงแข็งแรงขับสูงแบบหลายขั้นรุ่นใหม่ และหัวรบแบบไฮเปอร์โซนิกพิสัยกลางที่สามารถควบคุมการหลบหลีกได้
รายงานยังระบุว่า การทดสอบเกิดขึ้นในวันเดียวกับที่คณะผู้แทนที่นำโดยนางชเว ซ็อน-ฮี รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีเหนือ ออกเดินทางจากกรุงเปียงยางไปยังรัสเซีย
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การยิงขีปนาวุธและการเยือนรัสเซียเกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้นระหว่างเกาหลีเหนือ-ใต้ หลังจากที่เกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปอยู่หลายครั้งและปล่อยดาวเทียมสอดแนมทางทหารดวงแรก รวมถึงสายสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซีย ซึ่งสร้างความกังวลให้กับสหรัฐและชาติพันธมิตร
ในบทวิจารณ์ของ KCNA ที่เผยแพร่วันนี้ระบุว่า เกาหลีใต้เป็นผู้ยกระดับความตึงเครียดในภูมิภาคด้วยการซ้อมรบทางทหารและการให้เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ออกมาเรียกร้องให้มีการติดอาวุธ
"แม้แต่เพียงประกายไฟเล็กน้อยก็อาจเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาความขัดแย้งทางกายภาพขนาดใหญ่ระหว่างสองประเทศที่เป็นปฏิปักษ์กันมากที่สุด" บทวิจารณ์ระบุ
เกาหลีเหนือเพิ่งเปลี่ยนแปลงนโยบายที่ดำเนินมานานหลายทศวรรษ โดยกำหนดให้เกาหลีใต้เป็นรัฐศัตรูแยกต่างหาก โดยนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือกล่าวว่า การรวมชาติอย่างสันติสุขไม่อาจเป็นไปได้อีกต่อไป
ด้านนักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจใช้เป็นข้ออ้างในการใช้อาวุธนิวเคลียร์โจมตีเกาหลีใต้ในสงครามในอนาคต
กองทัพเกาหลีใต้กล่าวว่า มีขีปนาวุธยิงมาจากพื้นที่กรุงเปียงยางเมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 14:55 น. ตามเวลาท้องถิ่น เคลื่อนที่เป็นระยะทางประมาณ 1,000 กม. ก่อนตกลงนอกชายฝั่งตะวันออกของประเทศ ด้านกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นกล่าวว่า ระดับความสูงสูงสุดไม่ต่ำกว่า 50 กม.
ก่อนหน้านี้ เกาหลีเหนือเคยกล่าวว่าได้ทำการทดสอบเครื่องยนต์เชื้อเพลิงแข็งรุ่นใหม่สำหรับขีปนาวุธพิสัยกลางเมื่อวันที่ 11 พ.ย. และ 14 พ.ย.