นายจอห์น เคอร์บี โฆษกความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวเปิดเผยว่า แพทย์ประจำตัวของนายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐมองว่า นายออสตินอาจจะต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลต่อไป
ทั้งนี้ นายเคอร์บีเปิดเผยในรายการ "Face the Nation" ของสำนักข่าวซีบีเอสว่า "แพทย์ผู้ดูแลคิดว่านายออสตินต้องได้รับการดูแลเพิ่มเติม ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นการทำกายภาพบำบัด"
"มีการติดต่อสื่อสารกันอยู่เป็นประจำระหว่างท่านประธานาธิบดีโจ ไบเดนและท่านรัฐมนตรีออสติน โดยท่านรัฐมนตรียังคงมีส่วนร่วมในการทำงานอย่างแข็งขันจากโรงพยาบาล"
กระทรวงกลาโหมสหรัฐ (เพนตากอน) ระบุว่า นายออสตินยังคงอยู่ระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาลและมีอาการทรงตัว แต่ไม่ได้ระบุว่าจะสามารถออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อไร
ทั้งนี้ นายออสตินเข้ารับการรักษาตัวที่ศูนย์การแพทย์ทหารแห่งชาติวอลเตอร์รีด (Walter Reed National Military Medical Center) รัฐแมริแลนด์เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. เพื่อรักษาโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก แต่เขากลับถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลอีกครั้งเมื่อวันที่ 1 ม.ค. เนื่องจากภาวะแทรกซ้อน รวมถึงการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ และยังคงไม่ได้ออกจากโรงพยาบาลนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ปธน.ไบเดน กล่าวเมื่อวันศุกร์ (12 ม.ค.) ว่า เขายังคงเชื่อมั่นในตัวนายออสติน แม้จะเห็นด้วยว่าการตัดสินใจเข้ารับการรักษาตัวอย่างลับ ๆ ของเขาจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดก็ตาม
ความล้มเหลวของนายออสตินในการแจ้งให้ปธน.ไบเดนรับรู้ว่าเขาเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลนั้น ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากฝ่ายนิติบัญญัติและสร้างความประหลาดใจให้กับเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว
ทั้งนี้ นายออสตินถือเป็นบุคคลที่มีสิทธิ์สืบทอดอำนาจประธานาธิบดีสหรัฐเป็นลำดับที่ 6 และเป็นบุคคลที่มีความสำคัญต่อภารกิจด้านความมั่นคงของสหรัฐ ซึ่งการที่เขาเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลอย่างลับ ๆ ในช่วงที่ผ่านมานั้นเกิดขึ้นในขณะที่สหรัฐกำลังประเมินสถานการณ์ และมีการใช้มาตรการความมั่นคงแห่งชาติครั้งใหญ่หลายครั้ง ซึ่งรวมถึงการใช้ปฏิบัติการทางทหารในตะวันออกกลาง