"เบร์นาร์โด อาเรบาโล" สาบานตนเป็นปธน.กัวเตมาลาล่าช้า 9 ชม. หลังฝ่ายค้าน-ศาลฎีการุมขวาง

ข่าวต่างประเทศ Monday January 15, 2024 16:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายเบร์นาร์โด อาเรบาโล นักการเมืองผู้ขึ้นชื่อเรื่องการต่อต้านคอร์รัปชัน ได้เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีกัวเตมาลาในช่วงเช้าตรู่วันนี้ (15 ม.ค.) หลังจากพิธีฯ ต้องล่าช้าเป็นเวลาหลายชั่วโมง เนื่องจากฝ่ายค้านในรัฐสภาพยายามลดทอนอำนาจนายอาเรบาโลจนวินาทีสุดท้าย

นายอาเรบาโลก้าวขึ้นเป็นผู้นำประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในอเมริกากลาง โดยชนะการเลือกตั้งในเดือนส.ค. 2566 แบบแลนด์สไลด์ นายอาเรบาโลได้ให้คำมั่นว่าจะนำการปฏิรูปครั้งใหญ่และจัดการกับเรื่องค่าครองชีพที่พุ่งสูงและความรุนแรง ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้ประชาชนกัวเตมาลาโยกย้ายถิ่นฐานออกจากประเทศไปยังสหรัฐ

หลังจากที่พิธีฯ ล่าช้าไปประมาณ 9 ชั่วโมง นายอาเรบาโลก็ได้สาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีกัวเตมาลา สืบทอดต่อจากนายอาเลฮันโดร จัมมัตเตย์ นักการเมืองฝ่ายอนุรักษนิยมซึ่งรัฐบาลของเขามีปัญหาการทุจริตมากมาย

ทั้งนี้ นายจัมมัตเตย์ไม่ได้เข้าร่วมพิธีฯ ด้วย

ชัยชนะการเลือกตั้งแบบผิดคาดของนายอาเรบาโลถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของกัวเตมาลา โดยนายอาเรบาโลวัย 65 ปีผู้นี้ขึ้นชื่อด้านการเป็นผู้สนับสนุนประชาธิปไตยและเป็นผู้นำขบวนการหัวก้าวหน้าที่จะเข้ามาพลิกโฉมภูมิทัศน์การเมืองของประเทศที่ถูกครอบงำโดยพรรคฝ่ายอนุรักษนิยมมาช้านาน

นายอาเรบาโล ผู้เป็นนักการทูต นักสังคมวิทยา และบุตรชายของอดีตประธานาธิบดีกัวเตมาลา ต้องเผชิญกับแรงต่อต้านอย่างหนักจากพรรคการเมืองเก่าแก่ต่าง ๆ รวมถึงพรรคของนายจัมมัตเตย์และพันธมิตร ซึ่งพยายามขัดขวางชัยชนะการเลือกตั้งของนายอาเรบาโลมาหลายต่อหลายครั้ง

อัยการสูงสุดของกัวเตมาลา ซึ่งเป็นพันธมิตรของนายจัมมัตเตย์ ได้พยายามอยู่หลายครั้งที่จะขัดขวางการถ่ายโอนอำนาจประธานาธิบดีให้แก่นายอาเรบาโล รวมถึงพยายามยกเลิกความคุ้มกันทางกฎหมายของนายอาเรบาโลและรองประธานาธิบดี ตลอดจนพยายามยุบพรรคเซมียา (Semilla) ของนายอาเรบาโล ไปจนถึงขั้นพยายามให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ โดยสำนักงานอัยการสูงสุดให้เหตุผลว่า การกระทำเหล่านี้ล้วนอยู่ในกรอบของกฎหมายกัวเตมาลา

พิธีสาบานตนของอาเรบาโลตกอยู่ในความโกลาหล หลังจากศาลฎีกาตัดสินให้สมาชิกสภาฝ่ายค้านสามารถครองตำแหน่งผู้นำในรัฐสภาได้ต่อไป และบังคับให้สมาชิกพรรคเซมียาของนายอาเรบาโลทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายอิสระ (ไม่สังกัดพรรค) ซึ่งยิ่งทำให้พรรคเซมียามีเสียงในสภาลดลงเหลือเพียง 23 จาก 160 ที่นั่งในสภา

เหตุการณ์ดังกล่าวนำไปสู่การโต้เถียงในสภา และกลุ่มผู้สนับสนุนของนายอาเรบาโลขู่ว่าจะบุกอาคารรัฐสภา ขณะที่ตำรวจควบคุมฝูงชนพร้อมชุดเกราะเต็มตัวกำลังประจำการอยู่ตามท้องถนน

อย่างไรก็ตาม อำนาจของนายอาเรบาโลได้รับการหนุนเสริมขึ้น หลังจากที่นายซามูเอล เปเรซ อัลบาเรซ สมาชิกคนสำคัญของพรรคเซมียา ได้รับเลือกให้เป็นประธานสภาไปอย่างเหนือความคาดหมาย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ