นายโดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยในการเลือกตั้งขั้นต้นแบบคอคัส (caucus) ครั้งแรกของปี 2567 ในรัฐไอโอวาเมื่อวานนี้ (15 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อเฟ้นหาผู้แทนพรรครีพับลิกันไปชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ โดยนายทรัมป์นำเหนือคู่แข่งแบบขาดลอยในการปูทางสู่การเป็นแคนดิเดตของพรรคเป็นสมัยที่ 3
ขณะเดียวกัน เอดิสันรีเสิร์ชระบุว่า นายรอน เดซานติส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา และนางนิกกี เฮลีย์ อดีตเอกอัครราชทูตประจำสหประชาชาติ แข่งกันชิงอันดับที่ 2 ได้อย่างสูสี โดยทั้งสองพยายามเสนอตัวเป็นทางเลือกแทนอดีตปธน.ทรัมป์ที่เคยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อปี 2560-2564
แม้ว่าสภาพอากาศหนาวจัดถึงขั้นติดลบ 43 องศาเซลเซียส แต่ประชาชนชาวไอโอวาก็ฝ่าฟันมาเลือกตั้งตามสถานที่ต่าง ๆ มากกว่า 1,600 แห่งเพื่อเลือกตั้งแบบคอคัสเป็นรัฐแรกในสหรัฐ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผลการนับคะแนนไปแล้ว 40% พบว่า นายทรัมป์มีคะแนนเสียง 52.6%, เดซานติส 20% และเฮลีย์ 18.7% โดยทางเอดิสันรีเสิร์ชคาดว่าคะแนนเสียงทั้งหมดที่นับได้จะอยู่ที่ประมาณ 130,000 เสียง ซึ่งน้อยกว่าจำนวน 187,000 เสียงในการเลือกตั้งแบบคอคัสของพรรครีพับลิกันเมื่อปี 2559
ชัยชนะแบบขาดลอยของทรัมป์ยิ่งช่วยหนุนคำกล่าวอ้างของทรัมป์ที่ว่า เขาเป็นแคนดิเดตพรรครีพับลิกันเพียงคนเดียวที่สามารถแข่งกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครตได้ แม้ว่านายทรัมป์ยังคงเผชิญคดีอาญา 4 คดีที่อาจส่งผลให้เขากลายเป็นนักโทษก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 5 พ.ย.ปีนี้
ผลสำรวจผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งแบบคอคัสที่จัดทำโดยเอดิสันรีเสิร์ชพบว่า มีเพียง 1 ใน 3 เท่านั้นที่คิดว่าทรัมป์ไม่เหมาะที่จะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐหากถูกตัดสินว่ามีความผิดทางอาญา ขณะที่เกือบ 2 ใน 3 เชื่อว่า ไบเดนไม่ได้ชนะการเลือกตั้งปี 2563 อย่างยุติธรรม ซึ่งเป็นการเชื่อตามคำกล่าวอ้างของทรัมป์ที่ว่ามีการโกงเลือกตั้งในปีนั้น
ทั้งนี้ ผลคะแนนแบบขาดลอยของทรัมป์เกิดขึ้น แม้ว่านายทรัมป์ไม่ได้ร่วมดีเบตกับคู่แข่งในพรรครีพับลิกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว และไม่ได้เน้นหาเสียงในรัฐไอโอวาแบบเดียวกับแคนดิเดตส่วนใหญ่ด้วย
อเล็กซ์ ไฟเฟอร์ โฆษกคณะกรรมการดำเนินการทางการเมืองหลักที่สนับสนุนทรัมป์ระบุในแถลงการณ์ว่า "ประชาชนในรัฐไอโอวาได้ส่งสารอย่างชัดเจนในคืนนี้แล้วว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จะเป็นผู้แทนพรรครีพับลิกันเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐคนต่อไป ถึงเวลาแล้วที่จะทำให้เขาได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนต่อไป"