สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ซึ่งเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum (WEF) ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้ตามกำหนดการในวันพุธ (17 ม.ค.) เนื่องจากเครื่องบินเกิดขัดข้องจนไม่สามารถขึ้นบินได้
นายบลิงเกนและคณะนั่งเฮลิคอปเตอร์จากเมืองดาวอสไปยังนครซูริก เพื่อขึ้นเครื่องบินโบอิ้ง 737 กลับประเทศ อย่างไรก็ตาม เขาได้รับแจ้งว่าเครื่องบินลำดังกล่าวไม่ปลอดภัย เพราะพบการรั่วไหลของออกซิเจนและยังไม่สามารถแก้ไขได้
สุดท้ายแล้ว เครื่องบินลำเล็กกว่าได้ขึ้นบินจากกรุงบรัสเซลส์เพื่อไปรับนายบลิงเกนกลับสหรัฐ ขณะที่คณะผู้ติดตตามและสื่อมวลชนต้องเดินทางด้วยเครื่องบินพาณิชย์
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ยากลำบากของโบอิ้ง หลังจากที่สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (FAA) สั่งห้ามเครื่องบินโบอิ้ง 737 MAX 9 นับร้อยลำขึ้นบิน สืบเนื่องจากการเกิดอุบัติเหตุชิ้นส่วนบริเวณผนังเครื่องบินของสายการบินอลาสกา แอร์ไลน์ หลุดกลางอากาศเมื่อวันที่ 5 ม.ค.
ทั้งนี้ เครื่องบินโดยสารของนายบลิงเกนเป็นโบอิ้ง 737 รุ่นเก่ากว่า ซึ่งถูกดัดแปลงเป็นโบอิ้ง C40 โดยกองทัพอากาศสหรัฐ เพื่อใช้ในภารกิจขนส่งบุคคลสำคัญโดยเฉพาะ
เมื่อเดือนก.ย.ปีที่แล้ว นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ก็ติดค้างอยู่ที่อินเดีย หลังเข้าร่วมการประชุมสุดยอด G20 ที่กรุงนิวเดลี เนื่องจากเครื่องบินของเขาเกิดขัดข้องเชิงกล ขณะที่ฝูงบินตกรุ่นของรัฐบาลเยอรมนีก็เกิดขัดข้องหลายครั้ง ส่งผลให้ต้องเร่งปลดระวางเครื่องบินแอร์บัส A340 และซื้อเครื่องบินรุ่นใหม่อย่าง A350 มาใช้แทน