กระทรวงการต่างประเทศปากีสถานออกแถลงการณ์ในวันนี้ (18 ม.ค.) ว่า ได้เปิดฉากโจมตีกลุ่มติดอาวุธแบ่งแยกดินแดนภายในอิหร่าน โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น 2 วันหลังจากที่รัฐบาลอิหร่านกล่าวว่าได้โจมตีฐานกลุ่มติดอาวุธที่เชื่อมโยงกับอิสราเอลภายในดินแดนปากีสถาน
สื่อของอิหร่านรายงานว่า มีขีปนาวุธหลายลูกโจมตีหมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดซีสถานและบาโลชิสถาน ซึ่งมีพรมแดนติดกับปากีสถาน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย เป็นผู้หญิง 3 รายและเป็นเด็ก 4 ราย ซึ่งทั้งหมดไม่ใช่ชาวอิหร่าน
"ผู้ก่อการร้ายจำนวนหนึ่งถูกสังหารระหว่างปฏิบัติการหน่วยข่าวกรอง" กระทรวงฯ ระบุในถ้อยแถลง โดยอธิบายว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็น "ชุดการโจมตีทางทหารที่มีความแม่นยำสูงและกำหนดเป้าหมายเฉพาะเจาะจงต่อแหล่งกบดานของผู้ก่อการร้าย"
แถลงการณ์ยังระบุว่า "ปากีสถานเคารพอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านอย่างเต็มที่"
"วัตถุประสงค์เดียวของการกระทำในวันนี้คือเพื่อรักษาความมั่นคงของปากีสถานและผลประโยชน์ของชาติ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญยิ่งและไม่อาจประนีประนอมได้"
แหล่งข่าวกรองของปากีสถานเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า การโจมตีดังกล่าวดำเนินการโดยเครื่องบินทหาร
"กองกำลังของเราได้ดำเนินการโจมตีเพื่อกำจัดกลุ่มติดอาวุธบาโลชิสถานภายในอิหร่าน" เจ้าหน้าที่ข่าวกรองในกรุงอิสลามาบัด เมืองหลวงของปากีสถาน กล่าว
"กลุ่มติดอาวุธที่ตกเป็นเป้าหมายนั้นเป็นสมาชิกของ BLF" เจ้าหน้าที่กล่าวเสริม โดยหมายถึงกลุ่มแนวร่วมปลดปล่อยบาโลชิสถาน (Balochistan Liberation Front) ซึ่งต้องการให้จังหวัดบาโลชิสถานเป็นเอกราชจากปากีสถาน
ก่อนหน้านี้เมื่อวันอังคาร (16 ม.ค.) อิหร่านกล่าวว่า ได้โจมตีฐานกลุ่มติดอาวุธที่เชื่อมโยงกับอิสราเอลภายในปากีสถาน ฝ่ายปากีสถานกล่าวว่ามีพลเรือนถูกโจมตีและมีเด็กเสียชีวิต 2 ราย พร้อมเตือนอิหร่านถึงผลที่จะตามมาซึ่งอิหร่านต้องรับผิดชอบ
ต่อมาในวันพุธ (17 ม.ค.) รัฐบาลปากีสถานเรียกเอกอัครราชทูตจากอิหร่านกลับประเทศ
ที่ผ่านมา ปากีสถานและอิหร่านมีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไม่ราบรื่น แต่การโจมตีครั้งล่าสุดนี้ถือเป็นการล่วงล้ำข้ามพรมแดนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี