เมื่อวันเสาร์ (27 ม.ค.) อังกฤษ, เยอรมนี, อิตาลี, เนเธอร์แลนด์, สวิตเซอร์แลนด์ และฟินแลนด์ ได้ดำเนินการตามรอยสหรัฐ, ออสเตรเลีย และแคนาดาในการระงับการให้เงินสนับสนุนแก่ UNRWA ซึ่งเป็นแหล่งสนับสนุนที่สำคัญสำหรับประชาชนในฉนวนกาซา หลังจากอิสราเอลกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่บางรายของ UNRWA ร่วมมือโจมตีอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส
นายฟิลิปเป ลาซซารินี กรรมาธิการ UNRWA ระบุบนเอ็กซ์ (X) หรือทวิตเตอร์ว่า "ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาไม่ควรถูกลงโทษแบบเหมารวมเช่นนี้ การกระทำแบบนี้มันทำให้พวกเราทุกคนแปดเปื้อน"
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 ม.ค.) UNRWA ได้เปิดการสอบสวน และได้ยกเลิกสัญญาจ้างเจ้าหน้าที่บางรายแล้ว
ในการกระตุ้นให้ประเทศอื่น ๆ ระงับการให้เงินสนับสนุน UNRWA นายอิสราเอล แคตซ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอล ระบุว่า ควรหาหน่วยงานอื่นมาทำหน้าที่แทน UNRWA หลังจากสงครามนี้สงบลง และได้กล่าวหาว่า UNRWA มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มฮามาส โดยกล่าวว่า "ในการสร้างฉนวนกาซาขึ้นใหม่ UNRWA จะต้องถูกแทนที่ด้วยหน่วยงานที่อุทิศตนเพื่อสันติภาพและการพัฒนาอย่างแท้จริง"
นายฟาร์ฮาน ฮัก รองโฆษกองค์การสหประชาชาติ (UN) ตอบกลับว่า "เราไม่ตอบสนองต่อคำพูดดังกล่าว โดยรวมแล้ว UNRWA มีประวัติที่แข็งแกร่ง ซึ่งเราได้เน้นย้ำอยู่บ่อยครั้ง"
ด้านนายลาซซารินีระบุว่า การตัดสินใจของทั้ง 9 ประเทศดังกล่าว ถือเป็นการคุกคามงานด้านมนุษยธรรมทั่วทั้งภูมิภาค โดยเฉพาะในฉนวนกาซา
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า UNRWA ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2491 เพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัยจากสงครามในระหว่างการจัดตั้งรัฐอิสราเอล โดยให้ความช่วยเหลือด้านการศึกษา สาธารณสุข และความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวปาเลสไตน์ในกาซาและเขตเวสต์แบงก์ รวมถึงในประเทศเพื่อนบ้านอย่างจอร์แดน, ซีเรีย และเลบานอน ซึ่งได้ให้ความช่วยเหลือได้ถึงประมาณสองในสามของประชากรทั้งหมด 2.3 ล้านคนในฉนวนกาซา และมีบทบาทสำคัญในการให้ความช่วยเหลือในช่วงสงครามที่อิสราเอลเปิดฉากโจมตีฉนวนกาซาเพื่อกำจัดกลุ่มฮามาสหลังกลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค.