สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อิสราเอลและปาเลสไตน์ว่า หน่วยรบพิเศษอิสราเอล ซึ่งแต่งกายปลอมตัวเป็นพลเรือนและบุคลากรทางการแพทย์ ได้แทรกซึมเข้าไปในโรงพยาบาลอิบน์ ซีนา ในเมืองเจนินของเขตเวสต์แบงก์เมื่อวานนี้ (30 ม.ค.) และได้สังหารชายชาวปาเลสไตน์ 3 คน
ภาพจากกล้องวงจรปิดที่เผยแพร่บนโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นหน่วยคอมมานโดหลายสิบนายปลอมตัวเป็นพยาบาล ผู้หญิงสวมฮิญาบ และประชาชนทั่วไป โดยบางคนเข็นรถเข็น บางคนถือเบาะนั่งนิรภัยในรถสำหรับเด็ก และบางคนถืออาวุธปืนขณะเดินเข้าไปตามทางเดินในโรงพยาบาล
โรงพยาบาลระบุว่าในตอนเกิดเหตุ ชายผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คน กำลังนอนหลับอยู่ โดยกลุ่มญิฮาดอิสลามปาเลสไตน์อ้างว่าผู้เสียชีวิต 2 ราย คือสมาชิกของกลุ่ม ส่วนกลุ่มฮามาสก็อ้างผู้เสียชีวิตอีกรายเป็นสมาชิกของพวกตน พร้อมเสริมว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ยังเป็นนักรบของกองพันเจนิน (Jenin Brigade) ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธของปาเลสไตน์ในเวสต์แบงก์ อีกด้วย
รายงานระบุว่า ในระหว่างที่สงครามของอิสราเอลในฉนวนกาซาดำเนินมาเป็นเวลาเกือบ 4 เดือนนั้น การก่อเหตุดังกล่าวนับเป็นหนึ่งในการโจมตีที่อุกอาจที่สุดครั้งหนึ่งของอิสราเอลนับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น โดยผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการกระทำของกองทัพอิสราเอลในครั้งนี้อาจเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า เป้าหมายของภารกิจคือนายโมฮัมเหม็ด จาลัมเนห์ ซึ่งเป็นนักรบกลุ่มฮามาสที่มีส่วนร่วมในการส่งเสริมการก่อการร้ายครั้งใหญ่ในช่วงไม่นานมานี้ นายโมฮัมเหม็ดได้ซ่อนตัวอยู่ในโรงพยาบาลอิบน์ ซีนา และถูกพบพร้อมกับอาวุธปืนสั้น โดยกองทัพอิสราเอลกล่าวว่า เขามีแผนก่อเหตุรุนแรงครั้งใหญ่ ในลักษณะเดียวกับเหตุการณ์ที่กลุ่มฮามาสบุกโจมตีอิสราเอลครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 7 ต.ค.
กองทัพอิสราเอลเสริมว่า ชายทั้ง 3 รายหลบซ่อนตัวอยู่ในโรงพยาบาล และใช้โรงพยาบาลเป็นฐานในการวางแผนการก่อการร้าย และใช้เป็นที่ก่อเหตุ นอกจากนี้แล้ว ทั้ง 3 รายยังใช้โรงพยาบาลเป็นที่หลบภัยและใช้เป็นโล่มนุษย์ป้องกันตนเองด้วยเช่นกัน