นายแพทย์ทีดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการขององค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมาเตือนเมื่อวานนี้ (31 ม.ค.) ว่า การระงับการให้เงินสนับสนุนแก่สำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานของสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (UNRWA) อาจส่งผลเสียอย่างร้ายแรงต่อผู้คนในฉนวนกาซาที่เดือดร้อนจากสงคราม
นายแพทย์เกเบรเยซุสกล่าวว่า "ไม่มีหน่วยงานอื่นใดที่มีความสามารถในการให้ความช่วยเหลือในขนาดและขอบเขตที่ประชาชน 2.2 ล้านคนในฉนวนกาซาต้องการอย่างเร่งด่วนได้เช่นนี้" และเสริมว่า "การที่ประเทศต่าง ๆ ตัดสินใจจะระงับการให้เงินสนับสนุนแก่ UNRWA ซึ่งเป็นผู้จัดหาความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมรายใหญ่ที่สุดในช่วงวิกฤตนี้ จะสร้างหายนะต่อประชาชนในฉนวนกาซา"
นอกจากนี้ นายแพทย์เกเบรเยซุสกล่าวถึงสถานการณ์ในฉนวนกาซาว่า WHO เผชิญกับความท้าทายอย่างมากในการสนับสนุนระบบสุขภาพและคนงานในฉนวนกาซา โดยมีประชาชนมากกว่า 100,000 คนถูกจำกัดการเข้าถึงการรักษาพยาบาลเนื่องจากการต่อสู้อันดุเดือด
ด้านองค์การสหประชาชาติ (UN) ระบุว่า โรงพยาบาลส่วนใหญ่ในฉนวนกาซาได้หยุดให้บริการแล้ว เนื่องจากถูกทิ้งระเบิดอย่างหนัก รวมถึงขาดแคลนเชื้อเพลิงและเวชภัณฑ์ ส่วนโรงพยาบาลนัซเซอร์ (Nasser) ที่ตั้งอยู่ในฉนวนกาซาตอนกลาง สามารถให้บริการได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ประชาชนเสี่ยงอดอยากมากขึ้นเนื่องจากการสู้รบที่ยืดเยื้อและการเข้าถึงด้านมนุษยธรรมที่ถูกจำกัด ซึ่งทาง WHO ได้ขอให้ประเทศต่าง ๆ ทบทวนเรื่องการระงับการให้เงินสนับสนุน UNRWA โดยเน้นเรื่องความจำเป็นเร่งด่วนในการให้ความช่วยเหลือ การเข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างปลอดภัย การปล่อยตัวประกัน การคุ้มครองสถานพยาบาล และการหยุดยิง
ทั้งนี้ สหรัฐและหลายชาติในยุโรปต่างยุติการให้เงินช่วยเหลือ UNRWA หลังมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ 12 รายของ UNRWA มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มฮามาสในการโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566
UNRWA เปิดเผยว่า หากต่างชาติยังคงระงับการจัดส่งเงินช่วยเหลือให้แก่ UNRWA ทาง UNRWA ก็จะต้องยุติการดำเนินงานภายในสิ้นเดือนก.พ.
"หากเรายังคงไม่ได้รับเงินทุน UNRWA ก็จะไม่สามารถให้บริการในภูมิภาค ซึ่งรวมถึงฉนวนกาซา ภายในสิ้นเดือนก.พ." โฆษกของ UNRWA กล่าว