นายคิม ยองโฮ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการการรวมชาติของเกาหลีใต้ กล่าวในวันนี้ (2 ก.พ.) ว่า เกาหลีเหนือมุ่งเน้นการสร้างสถานการณ์ยั่วยุ เพื่อผลักดันให้คาบสมุทรเกาหลีกลายเป็นพื้นที่ที่มีความขัดแย้งทางทหารอยู่ตลอดเวลา แบบเดียวกับตะวันออกกลาง
สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่า เกาหลีเหนือได้ทดสอบอาวุธอย่างต่อเนื่องในปีใหม่นี้ รวมถึงการยิงขีปนาวุธร่อนจากทั้งทางบกและทางทะเล รวมถึงขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก
"ดูเหมือนเกาหลีเหนือตั้งใจที่จะทำให้ (คาบสมุทรเกาหลี) กลายเป็นภูมิภาคที่มีความเสี่ยงต่อความขัดแย้งทางทหารอยู่ตลอดเวลา ดังเช่นตะวันออกกลาง เราไม่ควรหลงกลอุบายของเกาหลีเหนือ" นายคิมกล่าวในรายการวิทยุ
นายคิมกล่าวว่า เกาหลีเหนือดูเหมือนจะใช้การยั่วยุทางทหารเพื่อสร้างความตึงเครียดด้านความมั่นคงและสร้างความแตกแยกในสังคมเกาหลีใต้ในช่วงก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนเม.ย.
เมื่อวันอังคาร (30 ม.ค.) เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธร่อนหลายลูกบริเวณนอกชายฝั่งตะวันตก ซึ่งเป็นการทดสอบขีปนาวุธเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 1 สัปดาห์ นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังยิงขีปนาวุธร่อนใต้น้ำชนิดใหม่ "พุลฮวาซัล-3-31" (Pulhwasal-3-31) เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (28 ม.ค.) อีกด้วย
กระทรวงฯ กล่าวว่า เกาหลีเหนือดูเหมือนจะข่มขู่ทางทหารอย่างสม่ำเสมอและจุดชนวนความกังวลเรื่องความมั่นคง เพื่อบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนเกาหลีใต้ต่อรัฐบาล
"เกาหลีเหนือยังตั้งใจดึงความสนใจจากประชาคมนานาชาติ เพื่อสร้างบรรยากาศว่า ข้อเรียกร้องของเกาหลีเหนือควรได้รับการยอมรับในการแก้ไขวิกฤตการณ์บนคาบสมุทรเกาหลี" คิม อินแอ รองโฆษกกระทรวงฯ กล่าวในการแถลงข่าว
เมื่อไม่นานมานี้ นายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ได้นิยามความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีทั้งสองชาติว่าเป็นความสัมพันธ์ระหว่าง "สองรัฐที่เป็นปฏิปักษ์กัน" พร้อมสั่งยุบหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านกิจการระหว่างเกาหลี
"มันมีมุมมองว่ากระทรวงต่างประเทศของเกาหลีเหนืออาจจะรับผิดชอบเรื่องกิจการระหว่างเกาหลีนับจากนี้เป็นต้นไป แต่รัฐบาลมีจุดยืนชัดเจนว่า กระทรวงกิจการการรวมชาติควรเป็นผู้จัดการกับประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลี" นายคิม ยองโฮ กล่าว
ขณะเดียวกัน นายคิม เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีใต้ด้านเกาหลีเหนือ กล่าวว่า ระบบการปันส่วนอาหารในเกาหลีเหนือ "ล่มสลายโดยสมบูรณ์" ท่ามกลางภาวะขาดแคลนอาหารติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยนายคิมอ้างข้อมูลจากรายงานที่จะเผยแพร่เร็ว ๆ นี้เกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมของเกาหลีเหนือ
ทั้งนี้ กระทรวงฯ วางแผนที่จะเผยแพร่รายงานดังกล่าวต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกในเดือนนี้ หลังจากที่รวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์ผู้แปรพักตร์จากเกาหลีเหนือมากกว่า 6,300 คน