เจ้าหน้าที่มาเลเซียเปิดเผยว่า เกิดเหตุผู้อพยพที่ไม่มีเอกสารถูกต้องหลบหนีออกจากศูนย์กักกันคนเข้าเมืองในมาเลเซียเป็นหลักร้อยคนเมื่อวานนี้ (1 ก.พ.) โดยมีผู้เคราะห์ร้ายประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนและเสียชีวิตไป 1 ราย
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบหลายปีของมาเลเซียที่เกิดเหตุผู้อพยพหลบหนีออกจากศูนย์กักกัน โดยเมื่อเดือนเม.ย. 2565 ผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาจากเมียนมาจำนวน 582 คน ได้หลบหนีออกจากด่านตรวจคนเข้าเมืองในรัฐเคดาห์ทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งมีผู้ลี้ภัย 6 รายเสียชีวิตจากการถูกรถชนบนทางหลวง
รัสลิน จูโซ อธิบดีกรมตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซีย กล่าวในแถลงการณ์วันนี้ (2 ก.พ.) ว่า มีผู้อพยพจำนวนทั้งสิ้น 131 คนที่หลบหนีออกจากด่านกักกันคนเข้าเมืองบิดอร์ในรัฐเปรักทางตะวันตกของมาเลเซียเมื่อคืนวานนี้ โดยหนึ่งในผู้หลบหนีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนน และเสริมว่า ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการค้นหาผู้หลบหนีคนอื่น ๆ
สำนักข่าวแห่งชาติมาเลเซียหรือเบอร์นามา (Bernama) รายงานโดยอ้างอิงแถลงการณ์จากตำรวจรัฐเปรักว่า ผู้อพยพที่หลบหนีออกจากศูนย์กักกันเป็นชาวโรฮิงญา 115 คน และชาวเมียนมาจากกลุ่มชาติพันธุ์อื่น ๆ 16 คน
ทั้งนี้ มาเลเซียเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับชาวโรฮิงญาที่หลบหนีการข่มเหงในเมียนมาหรือค่ายผู้ลี้ภัยในบังกลาเทศมาอย่างยาวนาน แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มาเลเซียได้ปฏิเสธเรือที่บรรทุกผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา และจับกุมผู้อพยพหลายพันคนไว้ในศูนย์กักกันที่แออัด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปราบปรามผู้อพยพที่ไม่มีเอกสาร