กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนประกาศเมื่อเช้าวันนี้ (4 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่นว่า จะเปิดฉากโจมตีเพื่อตอบโต้ต่อกรณีการโจมตีทางอากาศของสหรัฐ-อังกฤษในช่วงคืนวันเสาร์ (3 ก.พ.) ที่มุ่งเป้าไปยัง 6 จังหวัดทางตอนเหนือของเยเมนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของฮูตี รวมถึงกรุงซานา เมืองหลวงของประเทศด้วย
พลจัตวายะฮ์ยา ซารี โฆษกกองทัพฮูตี กล่าวแถลงการณ์ผ่านช่องทีวีอัล-มาซีเราะฮ์ ของฮูตีว่า "การโจมตีทางอากาศของกลุ่มพันธมิตรสหรัฐ-อังกฤษ จะไม่ทำให้เราลดการสนับสนุนประชาชนชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา และจะไม่ปล่อยผ่านไปโดยไม่มีการตอบโต้และการลงโทษ"
"การรุกรานของสหรัฐ-อังกฤษได้โจมตีทางอากาศ 48 ครั้ง ในช่วงไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึง 13 ครั้งในกรุงซานา, 9 ครั้งในฮุดัยดะฮ์, 11 ครั้งในตาอีซ, 7 ครั้งในจังหวัดอัลบัยฎออ์, 7 ครั้งในฮัจญ์ญะฮ์ และ 1 ครั้งในซาอาดา" พลจัตวายะฮ์ยา ซารี กล่าว โดยไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ด้านนายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ กล่าวว่า "กองทัพของสหรัฐและสหราชอาณาจักร โดยได้รับการสนับสนุนจากออสเตรเลีย, บาห์เรน, แคนาดา, เดนมาร์ก, เนเธอร์แลนด์ และนิวซีแลนด์ ได้ดำเนินการโจมตีเพิ่มเติมต่อเป้าหมายทางทหารในพื้นที่ที่ฮูตีควบคุมในเยเมน"
"กองกำลังพันธมิตรโจมตี 13 จุดที่เกี่ยวข้องกับคลังเก็บอาวุธใต้ดินที่ฝังลึก ระบบและเครื่องยิงขีปนาวุธ ระบบป้องกันภัยทางอากาศ และเรดาร์ของฮูตี" นายออสตินกล่าวในแถลงการณ์
นายโมฮัมหมัด อัล-บุคฮัยตี สมาชิกโปลิตบูโรของฮูตี โพสต์ตอบโต้บนโซเชียลมีเดียเอ็กซ์ (ทวิตเตอร์) ว่า การโจมตีของฮูตีจะไม่หยุดลง จนกว่าอิสราเอลจะยุติการรุกรานและการปิดล้อมฉนวนกาซา
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นับตั้งแต่ความขัดแย้งปาเลสไตน์-อิสราเอลปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566 กลุ่มฮูตีได้โจมตีเรือพาณิชย์และเรือรบสหรัฐในทะเลแดงและอ่าวเอเดนด้วยขีปนาวุธมากกว่า 40 ครั้ง สร้างความวุ่นวายให้กับการเดินเรือระหว่างประเทศในช่องทางขนส่งที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก