นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงประจำทำเนียบขาวของสหรัฐ เปิดเผยเมื่อวานนี้ (4 ก.พ.) ว่า สหรัฐมีความตั้งใจที่จะโจมตีกลุ่มติดอาวุธต่าง ๆ ที่ได้รับการหนุนหลังโดยอิหร่านในตะวันออกกลางต่อไป หลังปูพรมโจมตีกลุ่มติดอาวุธในอิรัก ซีเรีย และเยเมนเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สหรัฐและอังกฤษได้ระดมโจมตีกลุ่มฮูตีรวม 36 ครั้งในเยเมน ภายในเวลาเพียงหนึ่งวันหลังจากที่กองกำลังสหรัฐโจมตีกลุ่มติดอาวุธที่มีอิหร่านคอยหนุนหลังในอิรักและซีเรีย เพื่อตอบโต้การโจมตีกองกำลังสหรัฐในจอร์แดน
นายซัลลิแวนกล่าวในรายการ "Meet the Press" ของสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า "เราตั้งใจที่จะระดมโจมตีและดำเนินการต่าง ๆ เพิ่มเติม เพื่อส่งสารอย่างชัดเจนต่อไปว่า สหรัฐจะตอบโต้หากกองกำลังของเราถูกโจมตี และคนของเราถูกสังหาร"
ทั้งนี้ คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยังคงพยายามใช้วิธีการทางการทูตเพื่อยับยั้งผลกระทบจากสงคราม โดยนายแอนโทนี บลินเกน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ออกเดินทางสู่ภูมิภาคตะวันออกกลางเมื่อวานนี้
การระดมโจมตีที่เกิดขึ้นนับเป็นการโจมตีครั้งล่าสุดที่เกิดจากความขัดแย้งซึ่งบานปลายออกไปทั่วตะวันออกกลางนับตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. หลังจากที่กลุ่มติดอาวุธฮามาสบุกเข้าโจมตีอิสราเอลจากฉนวนกาซาและจุดชนวนสงคราม
กลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านที่ประกาศตัวสนับสนุนปาเลสไตน์ได้ก้าวเข้าสู่สนามรบทั่วภูมิภาค โดยกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้โจมตีชาวอิสราเอลที่เป็นเป้าหมายในบริเวณชายแดนเลบานอน-อิสราเอล ขณะที่กลุ่มติดอาวุธอิรักเปิดฉากโจมตีใส่กองกำลังสหรัฐในอิรักและซีเรีย และกลุ่มฮูตียิงขีปนาวุธใส่เรือขนส่งสินค้าในทะเลแดงและอิสราเอล