คณะผู้ตรวจสอบการคว่ำบาตรขององค์การสหประชาชาติ (UN) กำลังสืบสวนการโจมตีทางไซเบอร์จำนวนมากของเกาหลีเหนือ ซึ่งสร้างรายได้ถึง 3 พันล้านดอลลาร์เพื่อช่วยสนับสนุนการพัฒนาโครงการอาวุธนิวเคลียร์
คณะผู้ตรวจสอบฯ ได้รายงานต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ว่า "สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (DPRK) ยังคงละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของ UNSC และยังคงพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์เพิ่มเติมและผลิตวัสดุฟิซไซล์นิวเคลียร์ (nuclear fissile material) แม้ว่าการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งหลังสุดของ DPRK เกิดขึ้นในปี 2560 นอกจากนี้ DPRK ยังคงปล่อยขีปนาวุธนำวิถี, ส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจร และเพิ่มเรือดำน้ำติดอาวุธนิวเคลียร์ในคลังแสง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เกาหลีเหนือถูกสั่งห้ามการทดสอบนิวเคลียร์และการยิงขีปนาวุธโดย UNSC ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 15 ประเทศมานานแล้ว ซึ่งทาง UNSC ได้คว่ำบาตรเกาหลีใต้นับตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา และเพิ่มความพยายามที่จะตัดเงินทุนสำหรับการพัฒนาอาวุธทำลายล้างสูง (WMD) อยู่หลายครั้ง
คณะผู้ตรวจสอบฯ ระบุว่า "ผู้ตรวจสอบฯ กำลังสืบสวนเกี่ยวกับการโจมตีทางไซเบอร์ของ DPRK ต่อบริษัทที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซีจำนวน 58 ครั้งระหว่างปี 2560-2566 ที่มีมูลค่าประมาณ 3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งมีรายงานว่าได้ช่วยสนับสนุนการพัฒนาโครงการอาวุธทำลายล้างสูงของ DPRK"
ทั้งนี้ UN มีกำหนดเผยแพร่รายงานดังกล่าวต่อสาธารณะในช่วงปลายเดือนก.พ. หรือต้นเดือนมี.ค.