"เซเลนสกี" ปลด "ซาลุซนี" วีรบุรุษขวัญใจคนยูเครน ตั้ง "ซีร์สกี" เป็นผบ.ทบ.คนใหม่

ข่าวต่างประเทศ Friday February 9, 2024 09:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี สั่งปลดนายพลวาเลอรี ซาลุซนี ผู้บัญชาการกองทัพบก และแต่งตั้งพลเอกโอเล็กซานเดอร์ ซีร์สกี ขึ้นเป็นผู้บัญชาการคนใหม่เมื่อวานนี้ (8 ก.พ.) โดยถือเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ในขณะที่กองกำลังรัสเซียกำลังเป็นฝ่ายได้เปรียบในสงครามที่ดำเนินมากว่าสองปี

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การเปลี่ยนตัวผู้นำทัพครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากมีกระแสข่าวลือมานานหลายเดือนว่า ปธน.เซเลนสกีบาดหมางกับนายพลซาลุซนี ผู้เป็นวีรบุรุษของชาติในสายตาของชาวยูเครนจำนวนมาก

"นับตั้งแต่วันนี้ ทีมผู้บริหารชุดใหม่จะเข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้นำกองทัพยูเครน" ปธน.เซเลนสกีระบุในแถลงการณ์

ปธน.เซเลนสกีเลื่อนตำแหน่งพล.อ.ซีร์สกี วัย 58 ปี ให้เป็นผู้บัญชาการคนใหม่ของกองทัพ โดยอ้างถึงบทบาทของเขาในการดูแลการป้องกันกรุงเคียฟในปี 2565 และการโต้กลับรัสเซียแบบสายฟ้าแลบที่คาร์คิฟในช่วงปลายปีเดียวกัน

พล.อ.ซีร์สกี เจ้าของฉายา "เสือดาวหิมะ" เข้ารับตำแหน่งท่ามกลางความไม่แน่นอนอย่างมาก ในขณะที่ยูเครนรอความช่วยเหลือทางทหารจากสหรัฐ ซึ่งถูกชะลอโดยพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสของสหรัฐเป็นเวลาหลายเดือน

ขณะที่ยูเครนกำลังดิ้นรนหาวิธีเกณฑ์พลเรือนเข้าสู่กองทัพ การปลดนายพลซาลุซนีออกจากตำแหน่งอาจทำลายขวัญกำลังใจของกองทัพในแนวรบที่ยาวถึง 1,000 กิโลเมตร นอกจากนี้ อาจส่งผลเสียต่อคะแนนนิยมของปธน.เซเลนสกีอีกด้วย

ปธน.เซเลนสกีกล่าวว่าเขารู้สึกขอบคุณต่อช่วงเวลาที่นายพลซาลุซนีดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด พร้อมโพสต์รูปของทั้งสองจับมือกันด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม โดยที่นายพลซาลุซนีโพสท่าชูสองนิ้วเป็นรูปตัว V ที่หมายถึงสันติภาพ

หลังการประกาศปลดดังกล่าว โลกโซเชียลในยูเครนแห่โพสต์ข้อความขอบคุณนายพลซาลุซนี เจ้าของฉายา "นายพลเหล็ก" โดยชาวยูเครนบางรายโพสต์รูปนายพลซาลุซนีพร้อมกับรูปหัวใจ

อนึ่ง ผลสำรวจเมื่อปลายปีที่แล้วระบุว่า ความไว้วางใจของประชาชนในตัวนายพลซาลุซนีอยู่ที่ 90% ซึ่งสูงกว่าของปธน.เซเลนสกีที่ 77 % อย่างมีนัยสำคัญ

ภายใต้บัญชาการของนายพลซาลุซนี กองกำลังยูเครนสามารถหยุดยั้งการโจมตีครั้งแรกของรัสเซียในกรุงเคียฟและยึดดินแดนกลับคืนมาได้บางส่วนในปี 2565 แต่สถานการณ์ในสมรภูมิกลับพลิกผันจนยูเครนเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากการโต้กลับของยูเครนไม่สามารถทะลวงแนวป้องกันที่แน่นหนาของรัสเซียได้

นับตั้งแต่นั้นมา รัสเซียได้เพิ่มแรงกดดันการโจมตีทางแนวรบด้านตะวันออก โดยพยายามตัดขาดและปิดล้อมเมืองเอาดียิวกา

ปธน.เซเลนสกีระบุว่า ความพ่ายแพ้เมื่อปีที่แล้วเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจปลดนายพลซาลุซนี

"ในปีที่สองของสงครามครั้งนี้ เราเอาชนะในทะเลดำ เราพิชิตฤดูหนาว เราพิสูจน์ให้เห็นว่าเรากลับมาควบคุมท้องฟ้าของยูเครนได้อีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่เราไม่สามารถบรรลุเป้าหมายของรัฐเราบนภาคพื้นดินได้"

การปรับเปลี่ยนกองทัพครั้งนี้มีขึ้น หลังจากที่มีแถลงการณ์ว่า ปธน.เซเลนสกีได้พบกับนายพลซาลุซนีเพื่อหารือเกี่ยวกับการเปลี่ยนตัวผู้บัญชาการ โดยเสริมว่าปธน.เซเลนสกีได้ขอให้นายพลซาลุซนียังคงอยู่ใน "ทีมของเขา"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ