พลเอกลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ วัย 70 ปี เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยอาการป่วยเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะเมื่อวันอาทิตย์ (11 ก.พ.) เพียงไม่ถึง 1 เดือนนับจากที่เขาออกจากโรงพยาบาลหลังเข้ารับการรักษาภาวะแทรกซ้อนอันเนื่องมาจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
พลตรีแพทริค ไรเดอร์ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐ เปิดเผยว่า พลเอกออสตินถูกนำตัวส่งศูนย์การแพทย์ทหารแห่งชาติวอลเตอร์รีด ใกล้กับกรุงวอชิงตัน เนื่องมาจาก "อาการต่าง ๆ เกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน" โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาการป่วยของพลเอกออสติน
แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐระบุว่า พลเอกออสตินได้มอบหมายงานและหน้าที่รับผิดชอบให้กับนางแคธลีน ฮิกส์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ซึ่งทำเนียบขาวและสภาคองเกรสได้รับทราบเรื่องนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การรักษาตัวครั้งล่าสุดของพลเอกออสตินเกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่เขาตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์จากการที่เขาปิดบังว่าเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 1 ม.ค. เนื่องจากภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัดมะเร็งต่อมลูกหมาก
พลเอกออสตินออกจากโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 15 ม.ค. หลังจากรักษาตัวอยู่ประมาณ 2 สัปดาห์ จากนั้นเขาได้ออกมาขอโทษที่ปิดบังอาการป่วยของตนเอง พร้อมกับยอมรับว่าเขาใช้เวลานานหลายวันกว่าจะแจ้งให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน รับทราบว่าเขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก โดยเขากลับมาปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 29 ม.ค. ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 1 เดือน
การที่พลเอกออสตินปิดบังอาการป่วยเป็นความลับก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสภาคองเกรส และส่งผลให้สมาชิกสภานิติบัญญัติร้องขอคำชี้แจงจากพลเอกออสติน ด้านหน่วยงานเฝ้าระวังภายในของกระทรวงกลาโหมสหรัฐประกาศว่าจะดำเนินการตรวจสอบว่าระเบียบขั้นตอนต่าง ๆ ของกระทรวงกลาโหมนั้นครบถ้วนเพียงพอแล้วหรือไม่ เพื่อรับประกันว่าจะมีการแจ้งเตือนและการถ่ายโอนอำนาจอย่างเหมาะสมในกรณีที่รัฐมนตรีล้มป่วย