นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ เปิดเผยว่า เขาเคยบอกกับผู้นำของประเทศหนึ่งในยุโรปว่า เขาจะไม่ปกป้องประเทศสมาชิกนาโต (NATO) จากการรุกรานของรัสเซีย หากประเทศสมาชิกไม่ปฏิบัติตามพันธะผูกพันในการเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม ซึ่งถ้อยแถลงของเขาได้จุดประกายการถกเถียงเกี่ยวกับการความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับนาโต หากเขาได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นายทรัมป์กล่าวในระหว่างการหาเสียงที่รัฐเซาท์แคโรไลนาเมื่อวันเสาร์ว่า (10 ก.พ.) ว่า นาโตเคยอยู่ในภาวะระส่ำระสายจนกระทั่งเขาเข้ามาและบังคับให้ประเทศสมาชิกเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม
นอกจากนี้ นายทรัมป์เล่าว่า ในการประชุมครั้งหนึ่งของนาโต มีผู้นำของประเทศหนึ่งในยุโรปถามว่าสหรัฐจะปกป้องประเทศที่ไม่ปฏิบัติตามพันธะผูกพันในการเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมหรือไม่ ซึ่งเขาตอบว่า เขาจะบอกให้รัสเซีย "ทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ" กับประเทศที่ไม่ปฏิบัติตามพันธะผูกพัน
นายโจ แมนชิน วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครต กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (11 ก.พ.) ว่า คำพูดของนายทรัมป์เกี่ยวกับนาโตได้ส่งสารที่เลวร้ายไปยังประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย รวมถึงสหรัฐเอง ขณะที่นายจอห์น เฟตเตอร์แมน วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตอีกคน ก็ประณามว่าถ้อยแถลงดังกล่าวน่าตกใจและป่าเถื่อน
ในทางกลับกัน วุฒิสมาชิกที่สนับสนุนนายทรัมป์ได้ออกมาปกป้องเขา โดยนายลินด์ซีย์ เกรแฮม วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน ระบุว่า "ผมไม่มีความกังวลใด ๆ ทั้งสิ้น เขาจะไม่ถอนตัวจากนาโต และสิ่งสุดท้ายที่รัสเซียจะทำหากเขาได้เป็นประธานาธิบดีก็คือการเริ่มสงคราม เขาแค่พยายามแสดงความคิดเห็นเท่านั้น"
ด้านนายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต แถลงเมื่อวันอาทิตย์ว่า ชาติพันธมิตรยังคงมีความพร้อมและสามารถปกป้องพันธมิตรทั้งหมดได้