กระทรวงต่างประเทศของอินเดียระบุในวันนี้ (12 ก.พ) ว่า กาตาร์ปล่อยตัวอดีตทหารเรือชาวอินเดีย 8 ราย หลังจากตัดสินใจยกเลิกโทษประหารชีวิต โดยระบุว่าเป็นพระประสงค์ของเชค ตะมีม บิน ฮะมัด อาล ษานี เจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ และการอภัยโทษครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่พวกเขาถูกจับกุมเป็นนักโทษนานกว่า 18 เดือน ซึ่งสั่นคลอนความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ
กระทรวงต่างประเทศอินเดียระบุว่า อดีตทหารเรือกลุ่มนี้ทำงานในโครงการเรือดำน้ำร่วมกับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งของทางการกาตาร์ ในระหว่างที่พวกเขาถูกจับกุม
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวว่า อดีตทหารเรือกลุ่มนี้ถูกตั้งข้อหาว่าเป็นสายลับให้อิสราเอล แต่อินเดียและกาตาร์จะไม่ได้ยืนยันว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นเรื่องจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม พวกเขาถูกตัดสินโทษประหารชีวิตเมื่อเดือนต.ค. 2566 และทางการกาตาร์ได้ยกเลิกคำตัดสินไปเมื่อเดือนธ.ค. 2566
กระทรวงต่างประเทศอินเดียกล่าวว่า "เราซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่งที่เจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ ทรงมีพระบรมราชานุญาตให้ปล่อยตัวชาวอินเดียที่ถูกจับกุมและให้พวกเขาได้กลับบ้าน"
อินเดียระบุว่า ทหารเรือดัง7 นายเดินทางกลับอินเดียแล้ว ซึ่งทหารบางนายกล่าวกับสื่อท้องถิ่นเมื่อเดินทางมาถึงกรุงนิวเดลีว่า พวกเขาได้รับอิสระ เป็นเพราะว่านายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ได้เข้ายื่นมือแทรกแซงเรื่องนี้เป็นการส่วนตัว
ทั้งนี้ อินเดียกับกาตาร์ได้เจรจากันมาเป็นเวลาหลายเดือน หลังจากที่ทหารเรือกลุ่มนี้ถูกจับกุมเมื่อเดือนส.ค. 2565 ซึ่งเป็นคดีที่สั่นสะเทือนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอินเดียและกาตาร์ โดยอินเดียคือหนึ่งในผู้นำเข้าก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ของโลก และกาตาร์คือผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติรายสำคัญไปยังอินเดีย
นอกจากนี้แล้ว การประกาศปล่อยตัวดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่บริษัทกาตาร์และบริษัทอินเดียได้ลงนามในข้อตกลงครั้งใหญ่ที่สุดในการจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว และหลังจากที่นายโมดีนายได้พบปะกับ เชค ตะมีม บิน ฮะมัด อาล ษานี เจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์นอกรอบการประชุมสุดยอดด้านสภาพอากาศ (COP28) ที่นครดูไบ ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เมื่อเดือนธ.ค. 2566 นอกจากนี้ ทั้งสองยังได้หารือเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของชุมชนชาวอินเดียในกาตาร์อีกด้วย
อนึ่ง มีชาวอินเดียอาศัยและทำงานอยู่ในกาตาร์มากกว่า 800,000 คน