สหภาพยุโรป (EU) เปิดเผยเมื่อวานนี้ (12 ก.พ.) ว่า EU ได้ประกาศใช้กฎหมายเพื่อกันเงินกำไรส่วนเกินจากทรัพย์สินของธนาคารกลางรัสเซียที่ถูกอายัดเอาไว้ โดยมีเป้าหมายที่จะใช้เงินก้อนดังกล่าวในการช่วยฟื้นฟูบูรณะยูเครน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า EU และกลุ่ม G7 ได้อายัดทรัพย์สินของธนาคารกลางรัสเซียไปประมาณ 3 แสนล้านยูโร (3.23 แสนล้านดอลลาร์) หลังรัสเซียรุกรานยูเครน โดย EU และ G7 ได้ถกเถียงกันมาสักพักแล้วว่าจะนำเงินทุนเหล่านี้มาใช้ได้หรือไม่และจะใช้อย่างไร โดยสหรัฐเคยเสนอให้ยึดทรัพย์สินดังกล่าวทันที แต่ทาง EU มองว่า การกระทำดังกล่าวมีความเสี่ยงทางกฎหมายมากเกินไป
รายงานระบุว่า 2 ใน 3 ของเงินทุนเหล่านี้อยู่ในการดูแลของ EU โดยส่วนใหญ่อยู่ในยูโรเคลียร์ (Euroclear) ซึ่งเป็นสำนักหักบัญชีในเบลเยียม ปัจจุบันมีเพียงภาษีจากทรัพย์สินดังกล่าวในเบลเยียมเท่านั้นที่จัดสรรให้กับกองทุนสนับสนุนยูเครน โดยมีรัฐบาลเบลเยียมเป็นผู้ดำเนินการ
ทั้งนี้ กฎหมายดังกล่าวจะทำให้ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (CSD) อาทิ ยูโรเคลียร์ นำกำไรสุทธิไปใช้ไม่ได้ และต้องเก็บรายรับจากทรัพย์สินของรัสเซียแยกต่างหาก นอกจากนี้กฎหมายดังกล่าวยังครอบคลุมถึงสถาบันต่าง ๆ ที่ถือครองสินทรัพย์ของธนาคารกลางรัสเซียในมูลค่ามากกว่า 1 ล้านยูโร (1.1 ล้านดอลลาร์) ด้วย
EU คาดการณ์ว่า น่าจะนำกำไรไปช่วยยูเครนรวมกันได้ราว 1.5 หมื่นล้านยูโร (1.617 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตลอดระยะเวลา 4 ปีข้างหน้า ขณะที่นายดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของยูเครน ได้แสดงความยินดีกับประกาศดังกล่าวผ่านเอ็กซ์ (ทวิตเตอร์)