วุฒิสภาสหรัฐที่นำโดยพรรคเดโมแครตใกล้ที่จะอนุมัติร่างกฎหมายวงเงิน 9.534 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อวานนี้ (12 ก.พ.) ซึ่งครอบคลุมการช่วยเหลือยูเครน อิสราเอล และไต้หวัน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สมาชิกวุฒิสภาสนับสนุนร่างกฎหมายด้วยคะแนนเสียง 66 ต่อ 33 เสียง ซึ่งเกินเกณฑ์ 60 เสียงเพื่อเตรียมพร้อมพิจารณาร่างกฎหมายในขั้นสุดท้าย โดยคณะผู้นำวุฒิสภาคาดว่าจะมีการโหวตรอบสุดท้ายในวันพุธนี้ (14 ก.พ.)
อย่างไรก็ดี เมื่อคืนวันจันทร์ กลุ่มสายแข็งของพรรครีพับลิกันที่ไม่ต้องการให้สหรัฐส่งเงินช่วยเหลือแก่ยูเครนอีก ได้พากันกล่าวสุนทรพจน์ยืดยาว โดยเป็นที่คาดว่าเพื่อจะยื้อจนหมดเวลาอภิปรายช่วงเช้าวันอังคาร เพื่อบีบให้นายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากของวุฒิสภาสหรัฐสังกัดพรรคเดโมแครต ต้องรีบดำเนินการลงมติภายในวันนั้น
ทั้งนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวจะต้องผ่านการอนุมัติจากทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ก่อนที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะสามารถลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายได้
อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายนี้อาจต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนในสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากนายไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรเปิดเผยว่า พรรครีพับลิกันซึ่งครองเสียงข้างมากในสภาล่างต้องการให้ร่างกฎหมายดังกล่าวมีบทบัญญัติแก้ปัญหาผู้อพยพหลั่งไหลเข้าประเทศจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ตามแนวชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก
"หากยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายแก้ปัญหาชายแดนจากวุฒิสภาแม้แต่ข้อเดียว สภาผู้แทนฯ ก็ยังคงต้องทำงานตามเจตจำนงของสภาในประเด็นสำคัญเหล่านี้ต่อไป" นายจอห์นสันกล่าวในแถลงการณ์ที่ออกมาก่อนที่วุฒิสภาจะเริ่มลงคะแนนในวันจันทร์
"อเมริกาสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่าสถานภาพที่เป็นอยู่ของวุฒิสภา" นายจอห์นสันกล่าว
ทั้งนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวรวมถึงการสนับสนุนวงเงิน 6.1 หมื่นล้านดอลลาร์ให้แก่ยูเครน, 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ให้กับอิสราเอลในการทำสงครามกับกลุ่มติดอาวุธฮามาส และ 4.83 พันล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนพันธมิตรของสหรัฐในภูมิภาคอินโดแปซิฟิกซึ่งรวมถึงไต้หวัน และป้องกันการรุกรานจากจีน
นอกจากนี้ ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวจะมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจำนวน 9.15 พันล้านดอลลาร์ให้แก่พลเรือนในฉนวนกาซาและเวสต์แบงก์ ยูเครน และประชากรในพื้นที่ความขัดแย้งอื่น ๆ ทั่วโลก