นางเอเดม โวซอร์นู ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการและสนับสนุนของสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (OCHA) เปิดเผยในวันพุธ (14 ก.พ.) ว่า องค์การสหประชาชาติ (UN) มีความกังวลว่า การตัดสินใจของสหรัฐที่จะจัดให้กลุ่มกบฏฮูตีกลับไปอยู่ในรายชื่อองค์กรก่อการร้ายอีกครั้งนั้น อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของเยเมน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเข้าสินค้าจำเป็นเชิงพาณิชย์
การตัดสินใจดังกล่าวของสหรัฐที่ประกาศเมื่อเดือนม.ค.นั้น จะมีผลบังคับใช้ในวันพรุ่งนี้ (16 ก.พ.) และจะมีการออกมาตรการคว่ำบาตรกลุ่มฮูตีอย่างรุนแรง เพื่อที่จะตัดแหล่งเงินทุนและอาวุธที่กลุ่มฮูตีใช้ในการโจมตีเรือในเส้นทางเดินเรือที่สำคัญในทะเลแดง
นางโวซอร์นูระบุว่า แม้ OCHA จะกังวลเกี่ยวกับผลกระทบร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้น แต่ทางสหรัฐได้ออกข้อยกเว้นต่าง ๆ เพื่อลดผลกระทบต่อพลเรือนในเยเมน ซึ่งทาง UN เปิดเผยว่า มีผู้คนมากกว่า 18 ล้านคนในเยเมนต้องการความช่วยเหลือ
นอกจากนี้ นางโวซอร์นูกล่าวกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ว่า "อย่างไรก็ตาม เราเกรงว่าการดำเนินการดังกล่าวของสหรัฐอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ รวมถึงการนำเข้าสินค้าจำเป็นในเชิงพาณิชย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวเยเมนต้องพึ่งพามากกว่าเดิม โดยความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไม่สามารถชดเชยการจัดหาสินค้าเชิงพาณิชย์ทั้งหมดได้ และอาจส่งผลกระทบต่อเยเมนทั้งประเทศ ขณะที่เศรษฐกิจเยเมนที่อ่อนแออยู่แล้วไม่สามารถรับมือกับผลกระทบร้ายแรงใด ๆ มากไปกว่านี้แล้ว"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เยเมนเผชิญกับความขัดแย้งนับตั้งแต่กลุ่มฮูตีได้ขับไล่รัฐบาลออกจากกรุงซานาเมื่อปลายปี 2557 และกลุ่มพันธมิตรทางทหารที่นำโดยซาอุดีอาระเบียได้เข้าแทรกแซงในปี 2558 โดยมีเป้าหมายที่จะคืนสถานะให้กับรัฐบาลเดิมของเยเมน