นายปราโบโว ซูเบียนโต ว่าที่ผู้นำประเทศคนใหม่ของอินโดนีเซีย ตั้งเป้าปรับลดเงินอุดหนุนด้านพลังงาน เพื่อนำมาใช้จ่ายในด้านต่าง ๆ ตามที่ให้คำมั่นสัญญาไว้ระหว่างการหาเสียง ซึ่งเป็นข้อเสนอนโยบายแรกในฐานะประธานาธิบดี
นายซูเบียนโต ผู้เป็นอดีตนายพลในยุคของจอมพลซูฮาร์โตประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีอินโดนีเซียเมื่อวันพุธ (14 ก.พ.) หลังจากได้รับคะแนนเสียงเกือบ 60% ในการนับคะแนนเร็วแบบคู่ขนาน (quick count) ซึ่งเป็นการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ
นายเอ็ดดี ซูปาร์โน รองประธานทีมหาเสียงของนายซูเบียนโตกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กในวันนี้ (15 ก.พ.) ว่า นายซูเบียนโตอาจเชิญให้นายกันจาร์ ปราโนโว และนายอานีส บาสเวดาน สองผู้สมัครคู่แข่งและพรรคการเมืองของพวกเขา เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลด้วย โดยนายซูเบียนโตพยายามรวบรวมอำนาจเป็นหนึ่งเดียวเพื่อผลักดันนโยบายของเขา
นายซูปาร์โนกล่าวว่า หลังจากที่นายซูเบียนโตเข้ารับตำแหน่งในเดือนต.ค.แล้วนั้น รัฐบาลของเขาอาจปรับแก้ไขเงินอุดหนุนด้านพลังงานในช่วง 2-3 เดือนหลังจากนั้น พร้อมเสริมว่า งบประมาณจำนวน 350 ล้านล้านรูเปียห์ (2.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ที่รัฐบาลจัดสรรไว้สำหรับการอุดหนุนด้านน้ำมันดีเซลและก๊าซหุงต้มนั้น 80% ของผู้ได้รับประโยชน์คือประชาชนชาวอินโดนีเซียผู้มีรายได้ปานกลางและรายได้สูง แทนที่จะเป็นผู้มีรายได้น้อย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รัฐบาลใหม่ของนายซูเบียนโตยังจำเป็นต้องอุดช่องโหว่ในการเก็บภาษี โดยนายซูปาร์โนกล่าวว่า รายได้จากภาษีของอินโดนีเซียอยู่ที่ประมาณ 10% ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีอัตราส่วนรายได้จากภาษีสูงถึง 14%
นายซูปาร์โนชี้ว่า การปฏิรูปรายได้จะช่วยเพิ่มเงินทุนสำหรับนโยบายหลัก ๆ ที่นายซูเบียนโตให้คำมั่นไว้ในช่วงหาเสียง รวมถึงโครงการช่วยเหลืออาหารกลางวันและนมให้กับเด็กนักเรียนชาวอินโดนีเซีย 80 ล้านคน การยกระดับผลลัพธ์ด้านสุขภาพและการศึกษา และสร้างโอกาสในการทำงานให้กับผู้หญิง และผู้ประกอบการธุรกิจต่าง ๆ
ทั้งนี้ คาดว่าโครงการดังกล่าวจะมีมูลค่ามากกว่า 400 ล้านล้านรูเปียห์ ซึ่งมากกว่าการขาดดุลงบประมาณทั้งหมดในปี 2566