นายเบนนี แกนต์ซ รัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรีด้านสงครามของอิสราเอล เปิดเผยในวันอาทิตย์ (18 ก.พ.) ว่า อิสราเอลจะปฏิบัติการโจมตีภาคพื้นดินในเมืองราฟาห์ของฉนวนกาซา หากกลุ่มฮามาสไม่ปล่อยตัวประกันที่เหลือภายในช่วงเทศกาลรอมฎอน ซึ่งจะเริ่มขึ้นประมาณกลางเดือนมี.ค.
อย่างไรก็ดี นายแกนต์ซให้คำมั่นว่ากองทัพอิสราเอลจะร่วมมือกับสหรัฐและอียิปต์ช่วยกันอพยพพลเรือนในฉนวนกาซาออกจากพื้นที่ เพื่อลดการบาดเจ็บและการสูญเสียชีวิตให้เหลือน้อยที่สุด
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ชาวปาเลสไตน์ราว 1 ล้านคนในฉนวนกาซาได้หลบหนีการสู้รบเข้าไปลี้ภัยในเมืองราฟาห์ ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของฉนวนกาซาและติดกับพรมแดนอียิปต์
ในการปราศรัยต่อชาวอเมริกันเชื้อสายยิวในกรุงเยรูซาเล็มเมื่อวันอาทิตย์ (18 ก.พ.) นายแกนต์ซกล่าวว่า "สำหรับใครก็ตามที่บอกว่าจะเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินไป ผมขอย้ำให้ชัดเจนว่า กลุ่มฮามาสมีทางเลือก พวกเขาสามารถเลือกยอมจำนนได้ ปล่อยตัวประกันได้ และหากเลือกทางนี้ ประชาชนในฉนวนกาซาก็จะสามารถเฉลิมฉลองเดือนรอมฎอนอันศักดิ์สิทธิ์ได้"
ด้านนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เน้นย้ำว่าปฏิบัติการภาคพื้นดินในเมืองราฟาห์เป็นเรื่องที่จำเป็น เพื่อกำจัดกองกำลังของกลุ่มฮามาสที่เหลืออยู่ พร้อมเสริมว่าพวกที่เรียกร้องให้อิสราเอลไม่โจมตีเมืองราฟาห์ เท่ากับว่าสนับสนุนให้อิสราเอลพ่ายแพ้สงคราม
นายแกนต์ซให้คำมั่นว่าจะสู้ต่อไปจนกว่าอิสราเอลจะบรรลุเป้าหมาย ซึ่งรวมถึงการกำจัดภัยคุกคามของกลุ่มฮามาสและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน การช่วยตัวประกันที่เหลือประมาณ 130 คน และการทำลายล้างกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาให้หมดสิ้นไป
ทั้งนี้ การเจรจาเพื่อพักรบและปล่อยตัวประกันในฉนวนกาซาได้หยุดชะงักลงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เนื่องจากนายเนทันยาฮูปฏิเสธข้อเรียกร้องของกลุ่มฮามาส โดยกล่าวว่าเป็นข้อเรียกร้องที่เป็นไปไม่ได้