ฮูตีซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในเยเมนและได้รับการหนุนหลังโดยอิหร่าน ประกาศว่าได้ใช้ขีปนาวุธโจมตีเรือสหรัฐ 2 ลำในอ่าวเอเดน และเป็นการโจมตีอย่างแม่นยำ
พลจัตวายะห์ยา ซารี โฆษกกองทัพฮูตีแถลงการณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์อัล-มาซีเราะห์ของกลุ่มฮูตีว่า การโจมตีเรือทั้ง 2 ลำของสหรัฐที่มีชื่อว่า ซีแชมเปียน (Sea Champion) กับเนวิส ฟอร์ชูนา (Navis Fortuna) นั้น เป็นการโจมตีที่แม่นยำและเข้าเป้า โดยไม่ได้ระบุถึงความเสียหายและจำนวนผู้เสียชีวิต
รายงานระบุว่า การโจมตีครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้นในวันจันทร์ (19 ก.พ.) ส่งผลให้จำนวนการโจมตีของกลุ่มฮูตีภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมงเพิ่มขึ้นเป็น 4 ครั้ง โดยการโจมตีครั้งแรกพุ่งเป้าไปที่เรือสัญชาติอังกฤษ ซึ่งส่งผลให้เรือลำดังกล่าวจมลง ขณะที่การโจมตีครั้งที่ 2 คือการยิงโดรน MQ9 ของสหรัฐร่วงลงในน่านฟ้าของเมืองโฮเดดาห์ในเยเมน และการโจมตีครั้งล่าสุดอีก 2 ครั้งคือเรือทั้ง 2 ลำของสหรัฐ
พลจัตวาซารีกล่าวว่า "ปฏิบัติการของเราในทะเลแดงและทะเลอาหรับจะบานปลายและจะไม่ยุติลง เว้นแต่อิสราเอลจะหยุดโจมตีฮามาส และยกเลิกการปิดล้อมชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา"
ทั้งนี้ กลุ่มฮูตีระบุว่าการโจมตีเรือในทะเลแดงเป็นการตอบโต้สหรัฐและอังกฤษที่ใช้ปฏิบัติการทางอากาศโจมตีพื้นที่อัล-จาบานาห์ในเมืองท่าโฮเดดาห์ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มฮูตี
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กองกำลังติดอาวุธของกลุ่มฮูตีได้เข้าควบคุมเมืองโฮเดดาห์ซึ่งเป็นเมืองท่าที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ในทะเลแดงนับตั้งแต่มีการทำข้อตกลงสต็อกโฮล์ม (Stockholm Agreement) ในปี 2561 ซึ่งเป็นข้อตกลงที่ได้รับการสนับสนุนโดยองค์การสหประชาชาติ, สหรัฐ และอังกฤษ ส่งผลให้รัฐบาลเยเมนที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลต้องถอนตัวออกไปจากเมืองโฮเดดาห์