สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า บริษัทจีนกำลังจัดตั้งกองทัพอาสาสมัครของตนเอง โดยมีบริษัทจีนรายใหญ่อย่างน้อย 16 แห่ง ได้จัดตั้งกองทัพของตนขึ้นในปีที่ผ่านมา ไม่เว้นแม่แต่บริษัทผลิตภัณฑ์นม
กองทัพอาสาสมัครที่ว่านี้มีชื่อว่าหน่วยงานกองทัพประชาชน (People?s Armed Forces Departments) ประกอบด้วยพลเรือนที่ยังคงทำงานประจำอยู่ โดยมีหน้าที่เสริมเป็นกำลังสำรองและกำลังเสริมสำหรับกองทัพจีน และพร้อมให้ความช่วยเหลือทางการจีนในภารกิจต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการตอบสนองต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติ รักษาระเบียบทางสังคม ไปจนถึงการให้การสนับสนุนในช่วงสงคราม
รายงานข่าวระบุว่า กองทัพดังกล่าวไม่ได้ปฏิบัติการนอกประเทศจีน และมีความคล้ายคลึงกับกองกำลังป้องกันชาติของสหรัฐมากกว่าจะเป็นขบวนการทหารกองหนุน โดยนักวิเคราะห์มองว่า การจัดตั้งหน่วยงานกองทัพประชาชนนี้ได้ตอกย้ำถึงความกังวลของจีนเกี่ยวกับความขัดแย้งในต่างประเทศ รวมถึงความไม่สงบทางสังคมภายในจีนเอง ในขณะที่เศรษฐกิจจีนติดขัด
นอกจากนี้ การจัดตั้งกองทัพประชาชนดังกล่าวอาจมองได้ว่าเป็นการตอบสนองต่อโรคระบาด และเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เพื่อกระชับอำนาจในการควบคุมสังคมและภาคธุรกิจ
นายนีล โธมัส นักวิชาการด้านการเมืองจีน จากศูนย์วิเคราะห์จีนของสถาบันนโยบายสังคมแห่งเอเชีย กล่าวว่า "การกลับมาตั้งกองทัพประชาชนดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่านายสีมุ่งบูรณาการการพัฒนาเศรษฐกิจเข้ากับความมั่นคงของชาติ ในขณะที่จีนกำลังจะเผชิญกับอนาคตที่ยากลำบากมากขึ้นเนื่องจากเศรษฐกิจเติบโตช้าลง และมีการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์เพิ่มขึ้น ... โดยที่หน่วยงานกองทัพประชาชนภายใต้การนำของทหาร อาจช่วยให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนระงับเหตุการณ์ความไม่สงบทางสังคม เช่น การประท้วงของผู้บริโภค และการนัดหยุดงานของพนักงาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น"