ในระหว่างการแถลงต่อรัฐสภาสหรัฐซึ่งมุ่งเน้นประเด็นการทำงานของเครนที่ท่าเรือของสหรัฐ ซึ่ง 80% ผลิตในจีน สภาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ตั้งคำถามเจ้าหน้าที่จากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐและหน่วยยามฝั่งสหรัฐเกี่ยวกับการพึ่งพาจีนในด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ รวมถึงอะไหล่สำรองสำหรับเครนเหล่านี้ และการดำเนินงานที่อาจส่งผลกระทบต่อความยืดหยุ่นของท่าเรือในสหรัฐ
"เราเห็นด้วยอย่างยิ่งและเราตระหนักถึงการพึ่งพาผู้ผลิตเครนของจีนที่มากเกินไป" คริสตา โบรโซซอฟสกี้ รักษาการผู้ช่วยเลขาธิการฝ่ายความมั่นคงทางการค้าและเศรษฐกิจสังกัดกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐ กล่าวต่อสภาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในคณะอนุกรรมการสภาผู้แทนราษฎรด้านการขนส่งและความมั่นคงทางทะเล ซึ่งรับผิดชอบในการตรวจสอบภัยคุกคามทางไซเบอร์ของท่าเรือสหรัฐ
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ท่าเรือในสหรัฐจัดการกับสินค้ามากกว่า 99% ที่มาจากต่างประเทศ และมีตำแหน่งงานที่เกียวข้องกับท่าเรือถึง 31 ล้านตำแหน่ง ซึ่งสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมากถึง 5.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และคิดเป็นมากกว่า 1 ใน 4 ของเศรษฐกิจประเทศ
ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงต้นปี 2566 เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐกล่าวว่า พวกเขามีความกังวลว่าบริษัทเซี่ยงไฮ้ เจิ้นหัว เฮฟวี อินดัสทรีส์ (Shanghai Zhenhua Heavy Industries หรือ ZPMC) ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครนยกขนตู้สินค้าหน้าท่าจากจีน อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือสอดแนมของจีน ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อรัฐสภาสหรัฐเพิ่มขึ้น ในขณะที่จีนกล่าวในขณะนั้นว่า ความกังวลดังกล่าวเป็นผลมาจากความหวาดระแวง
ทั้งนี้ ZPMC ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อรายงานดังกล่าว