นางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบสหรัฐจะเข้าพบปะกับนายเบนนี แกนต์ซ นายเบนนี แกนต์ซ รัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรีด้านสงครามของอิสราเอล ที่ทำเนียบขาวในวันจันทร์ (4 มี.ค.) ท่ามกลางความพยายามของสหรัฐในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราว และเพิ่มการส่งความช่วยเหลือไปยังฉนวนกาซา
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างอิงเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวว่า การเจรจาระหว่างนางแฮร์ริสและนายแกนต์ซ คาดว่าจะครอบคลุมหัวข้อต่าง ๆ รวมถึง การพักรบชั่วคราว การลดการบาดเจ็บล้มตายของพลเรือนชาวปาเลสไตน์ การปล่อยตัวประกันที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในฉนวนกาซาและการเพิ่มความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ในฉนวนกาซา
"รองประธานาธิบดีจะแสดงความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของผู้คนมากถึง 1.5 ล้านคนในเมืองราฟาห์" เจ้าหน้าที่กล่าว พร้อมเสริมว่าอิสราเอลยังคงมีสิทธิ์ที่จะป้องกันตัวเองเมื่อเผชิญกับภัยคุกคามจากการก่อการร้ายของกลุ่มฮามาสที่ยังดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง
ทางด้านแถลงการณ์ของนายแกนต์ระยืนยันว่าเขาจะเข้าพบปะกับนางแฮร์ริส รวมถึงนายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ และบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ทั้งจากพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน
นอกจากนี้แล้ว นางแฮร์ริสและนายแกนต์ซจะหารือเกี่ยวกับการวางแผนหลังสงครามสิ้นสุดลงเพื่อฟื้นฟูฉนวนกาซาภายใต้อำนาจปาเลสไตน์
รายงานระบุว่า กองทัพสหรัฐปฏิบัติการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมทางอากาศไปยังฉนวนกาซาเป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้ (2 มี.ค.) และหน่วยงานบรรเทาทุกข์เตือนถึงวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่เพิ่มมากขึ้นในฉนวนกาซา ในขณะที่อิสราเอลรุกโจมตีอย่างต่อเนื่อง
นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศแผนการส่งเครื่องบินช่วยเหลือไปยังฉนวนกาซาเมื่อวันศุกร์ (1 มี.ค.) หนึ่งวันหลังจากเหตุสลดที่ชาวปาเลสไตน์จำนวนมากถูกโจมตีและเสียชีวิตระหว่างต่อแถวรอรับความช่วยเหลือ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในฉนวนกาซา ระบุว่ามีผู้เสียชีวิต 118 รายจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากการโจมตีของอิสราเอล และเรียกเหตุการณ์นี้ว่าเป็นการสังหารหมู่ อย่างไรก็ตามอิสราเอลปฏิเสธตัวเลขเสียชีวิตดังกล่าว และกล่าวว่าเหยื่อส่วนใหญ่เสียชีวิตจากการวิ่งเหยียบทับกันเอง หรือถูกรถทับ