นายโวลเกอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่า ประชาคมระหว่างประเทศจะต้องดำเนินการที่เด็ดขาดและเ ฉพาะเจาะจง เพื่อยับยั้งรัฐบาลทหารเมียนมาในการเข้าถึงอาวุธ น้ำมัน เครื่องบิน และสกุลเงินต่างประเทศ เพื่อหยุดยั้งการกระทำการรุนแรงต่อพลเรือนในประเทศ
"ผมขอเรียกไปยังประชาคมระหว่างประเทศอีกครั้ง ให้มุ่งความสนใจไปที่การหยุดยั้งการกระทำการอันทารุณโหดร้ายต่อผู้คนในเมียน ซึ่งรวมถึงชาวโรฮิงญาด้วย" นายเติร์ก กล่าวต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน I สำนักงานใหญ่องค์กรสหประชาชาติ ในนครเจนีวา ของสวิตเซอร์แลนด์
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมียนมาตกอยู่ในความวุ่นวาย นับตั้งแต่กองทัพก่อรัฐประหารและยึดอำนาจจากรัฐบาลในปี 2564 โดยตลอดหลายปีที่ผ่านมา ชาวโรฮิงญาเกือบ 1 ล้านคน หลบหนีการปราบปรามอย่างรุนแรงของทหาร และลี้ภัยไปอาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยที่แออัดในแถบเขตชายแดนของบังกลาเทศ โดยรัฐบาลทหารเมียนมาเล็งเห็นว่าชาวโรฮิงญาเป็นคนนอก และปฏิเสธการให้สัญชาติ
ทั้งนี้ นายเติร์กยังได้กระตุ้นให้รัฐสมาชิกรับประกันการคุ้มครองผู้ลี้ภัยระหว่างประเทศที่หลบหนีจากการปราบปรามอย่างโหดร้ายและความขัดแย้งในเมียนมา