นายไช่ หมิงเยี่ยน ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองกลางแห่งชาติไต้หวัน (NSB) ออกมาเตือนในวันนี้ (11 มี.ค.) ว่า จีนมีแนวโน้มว่าจะกดดันไต้หวันมากขึ้นทั้งก่อนและหลังการส่งมอบอำนาจให้รัฐบาลชุดใหม่ในเดือนพ.ค.นี้
นายไช่กล่าวกับฝ่ายนิติบัญญัติว่า คาดว่าจีนจะดำเนินกลยุทธ์ "ผลักและดึง" ต่อไปในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า นอกจากนั้นยังเตือนว่าทางการจีนจะยังคงรักษาท่าทีคุกคามทางการเมืองและการทหารต่อรัฐบาลไต้หวัน ไปพร้อมกับมอบข้อเสนอจูงใจทางเศรษฐกิจให้แก่ผู้ที่สนับสนุนเป้าหมายการรวมชาติกับไต้หวัน
นายไช่ระบุว่า ยุทธศาสตร์ต่าง ๆ ของจีนมีทีท่าว่าจะเข้มข้นมากยิ่งขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ก่อนถึงวันที่ 20 พ.ค. ซึ่งจะมีพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของนายไล่ ชิงเต๋อ จากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) ที่ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อเดือนม.ค. และคาดว่าจีนจะดำเนินยุทธศาสตร์อย่างเข้มข้นต่อไปหลังจากนั้นด้วย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า หน่วยข่าวกรองไต้หวันยังเผยอีกว่า จีนพยายามทำให้การซ้อมรบใกล้เกาะไต้หวันเป็นเรื่องปกติ โดยมีการลาดตระเวนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการซ้อมรบทุก 7-10 วันโดยเฉลี่ย
นายไช่กล่าวว่า "ความพยายามทำให้การลาดตระเวนกลายเป็นเรื่องปกตินั้น มีความเกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนระหว่างไต้หวันกับต่างชาติ เราสังเกตเห็นว่าเมื่อใดก็ตามที่ต่างชาติผ่านมติที่เอื้อประโยชน์ต่อไต้หวัน หรือเรือต่างชาติแล่นผ่านช่องแคบไต้หวัน หรือบุคคลสำคัญจากต่างชาติมาเยือนไต้หวัน จีนจะปรับเปลี่ยนกำหนดการลาดตระเวนให้ตรงกับเหตุการณ์ทางการทูตเหล่านี้เสมอ"