ชาวปาเลสไตน์เตรียมตัวเข้าสู่เดือนรอมฎอน หรือเดือนถือศีลอดและเป็นเดือนศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม แต่บรรยากาศเดือนรอมฎอนสำหรับชาวปาเลสไตน์ในปีนี้ถูกบดบังด้วยความรู้สึกโศกเศร้าอันเนื่องจากสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสในปาเลสไตน์ที่ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะจบลง รวมทั้งการที่ตำรวจอิสราเอลวางกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาในหลายพื้นที่ ความอดอยากในฉนวนกาซา และการเจรจาเพื่อยุติการสู้รบยังไม่มีความคืบหน้า
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ทางการอิสราเอลได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายพันนายเข้าประจำการในเขตเมืองเก่า (Old City) ของกรุงเยรูซาเลม ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีชาวมุสลิมหลายหมื่นคนเดินทางมาทำพิธีละหมาดที่มัสยิดอัล-อักซอ มัสยิดแห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่กลายมาเป็นชนวนเหตุแห่งความขัดแย้งระหว่างชาวอิสราเอลและปาเลสไตน์ตั้งแต่ในปี 2564 โดยเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดอันดับสามของศาสนาอิสลาม ขณะที่ชาวยิวก็มีความศรัทธาในฐานะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของพวกเขาเช่นกัน โดยเรียกมัสยิดแห่งนี้ว่า "เนินพระวิหาร" หรือ "Temple Mount"
ทั้งนี้ การที่อิสราเอลใช้ปฏิบัติการทางทหารอย่างต่อเนื่องในฉนวนกาซาได้ก่อให้เกิดความกังวลทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสี่ยงที่จะเกิดความอดอยากเพิ่มขึ้น และอาจทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก หลังตัวเลขดังกล่าวพุ่งขึ้นทะลุระดับ 31,000 รายแล้ว
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (10 ม.ค.) ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐได้ออกแถลงการณ์เพื่อส่งสารถึงชาวมุสลิมทั้งในสหรัฐและในต่างประเทศว่า สหรัฐให้คำมั่นว่าจะผลักดันความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา รวมทั้งการหยุดยิง และสร้างเสถียรภาพในระยะยาวของภูมิภาคแห่งนี้ต่อไป