สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐวางแผนจะลงมติในร่างกฎหมายในวันนี้ (13 มี.ค.) ซึ่งจะกำหนดให้ไบต์แดนซ์ (ByteDance) ขายแพลตฟอร์มติ๊กต๊อก (TikTok) ซึ่งมีชาวอเมริกันใช้งานราว 170 ล้านคน ภายในระยะเวลา 6 เดือน และไบต์แดนซ์อาจถูกแบน หากไม่ปฏิบัติตาม
การลงมติคาดว่าจะมีขึ้นในเวลา 10:00 น. หรือตรงกับประมาณ 21:00 น. ตามเวลาไทย และต้องมีคะแนนเสียงเห็นชอบ 2 ใน 3 จึงจะสามารถผ่านร่างกฎหมายได้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การลงมติดังกล่าวมีขึ้นเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่มีการเสนอร่างกฎหมายนี้ และหลังจากเปิดให้สาธารณชนร่วมพิจารณาและให้ความเห็นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คณะกรรมการพลังงานและการพาณิชย์ของสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าวอย่างเป็นเอกฉันท์ที่ 50 ต่อ 0 เสียง และกำหนดให้นำขึ้นลงมติโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด
สำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) กระทรวงยุติธรรม และสำนักงานผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ จัดการประชุมเป็นการภายในสำหรับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันอังคาร (12 มี.ค.)
"เราได้ตอบคำถามจำนวนมากจากสมาชิก ในระหว่างการประชุมเป็นการภายในนี้ เพื่อให้สมาชิกได้เข้าใจอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และวิธีการที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนจะใช้สร้างผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อครอบครัวชาวอเมริกัน" นายสตีฟ สคาลีส ผู้นำเสียงข้างมากของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าว
แหล่งข่าวระบุว่า นายโชว ชู ซีอีโอของติ๊กต๊อก มีกำหนดเดินทางไปยังอาคารรัฐสภาสหรัฐเพื่อพบปะกับสมาชิกวุฒิสภาในวันนี้
ด้านติ๊กต๊อกระบุว่า "ร่างกฎหมายนี้มีผลลัพธ์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว นั่นคือการแบนติ๊กต๊อกในสหรัฐโดยสิ้นเชิง" พร้อมเสริมว่ารัฐบาลสหรัฐพยายามลิดรอนสิทธิในการแสดงออกอย่างเสรีตามรัฐธรรมนูญของชาวอเมริกัน 170 ล้านคน
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวนับเป็นความพยายามล่าสุดของสหรัฐในการปราบปรามติ๊กต๊อก ขณะที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็เคยพยายามแบนแอปพลิเคชันดังกล่าว แต่ไม่ประสบผลสำเร็จในปี 2563
ความพยายามก่อนหน้านี้ในการปราบปรามติ๊กต๊อกต้องหยุดชะงักไปเมื่อปีที่ผ่านมา เนื่องจากติ๊กต๊อกเดินหน้าล็อบบี้รัฐบาลสหรัฐอย่างหนักให้อนุญาตใช้แอปดังกล่าวในสหรัฐ
ด้านติ๊กต๊อกซึ่งยืนยันว่าไม่เคยและจะไม่แบ่งปันข้อมูลผู้ใช้งานชาวอเมริกันให้กับรัฐบาลจีนระบุว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวเท่ากับเป็นการแบนติ๊กต๊อก และไม่แน่ใจว่าจีนจะอนุมัติการขายกิจการหรือไม่ หรือจะสามารถขายกิจการได้ภายใน 6 เดือนหรือไม่