รัฐสภาของเวียดนามมีกำหนดจะประชุมกันในวันพฤหัสบดีนี้ (21 มี.ค.) โดยมีข่าวลือว่าอาจมีการแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งภายในคณะผู้นำของพรรคคอมมิวนิสต์ และว่านายหวอ วัน เถือง ประธานาธิบดีเวียดนาม อาจลาออกจากตำแหน่ง
รัฐบาลเวียดนามได้ส่งจดหมายถึงสมาชิกสภานิติบัญญัติ เพื่อแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับการประชุม โดยจดหมายระบุว่าจะหารือเกี่ยวกับ "ประเด็นด้านบุคลากร" โดยไม่ได้ให้รายละเอียดแต่อย่างใด
จดหมายดังกล่าวลงนามโดยนายบู่ย วัน เกื่อง เลขาธิการสมัชชาแห่งชาติ ซึ่งสำเนาของจดหมายฉบับนี้ที่ทางสำนักข่าวรอยเตอร์ได้เห็นระบุว่า "คณะกรรมาธิการสามัญประจำสมัชชาแห่งชาติได้มีมติเรียกประชุมสมัยวิสามัญครั้งที่ 6 ของสมัชชาแห่งชาติชุดที่ 15 เพื่อพิจารณาและวินิจฉัยเกี่ยวกับประเด็นด้านบุคลากร"
เจ้าหน้าที่รัฐบาลเวียดนามที่ทราบเรื่องนี้ได้ยืนยันว่าการประชุมจะเกิดขึ้นจริง อย่างไรก็ตาม สำนักงานข่าวของกระทรวงการต่างประเทศและรัฐสภาเวียดนามไม่ได้ให้ความเห็นกับทางรอยเตอร์แต่อย่างใด
ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าจะมีการลงมติเรื่องอะไรในสมัยประชุมวิสามัญครั้งนี้ โดยการประชุมดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ราชสำนักเนเธอร์แลนด์ได้ออกแถลงการณ์ว่า การเสด็จเยือนเวียดนามของราชวงศ์เนเธอร์แลนด์ซึ่งเดิมมีกำหนดการในสัปดาห์หน้านั้น ได้ถูกเลื่อนออกไปเนื่องจากสถานการณ์ภายในประเทศของเวียดนาม
เมื่อปีที่แล้ว สมัชชาแห่งชาติได้จัดการประชุมพิเศษในเดือนม.ค. เพื่อยอมรับการลาออกอย่างกะทันหันของนายเหงียน ซวน ฟุก ประธานาธิบดีเวียดนามในขณะนั้น ซึ่งลาออกจากตำแหน่งขณะที่เวียดนามเกิดกระแสรณรงค์ต่อต้านคอร์รัปชัน โดยนักวิจารณ์มองว่าแคมเปญดังกล่าวอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือสำหรับศึกภายในรัฐบาล
ทั้งนี้ นายเถืองวัย 53 ปี ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีเวียดนามในเดือนมี.ค. 2566 และถูกมองว่ามีความใกล้ชิดกับนายเหงียน ฟู้ จ่อง ผู้เป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์และเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดของเวียดนาม
ในเวียดนาม ตำแหน่งประธานาธิบดีมีบทบาทเพียงแค่ด้านพิธีการเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ถือเป็นหนึ่งในสี่ตำแหน่งทางการเมืองที่สำคัญที่สุดของประเทศ