แหล่งข่าววงในเปิดเผยเมื่อวันอังคาร (19 มี.ค.) ว่า สหรัฐจะยังคงไม่ให้เงินทุนสนับสนุนแก่องค์กรบรรเทาทุกข์และจัดหางานแห่งสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (UNRWA) ไปจนถึงเดือนมี.ค. 2568 โดยปรากฏในข้อตกลงที่บรรลุแล้วระหว่างผู้นำสภาคองเกรสกับทำเนียบขาวว่าด้วยร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณครั้งใหญ่ให้แก่กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และโครงการอื่น ๆ ของรัฐบาล
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ย้อนกลับไปเมื่อเดือนม.ค. รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ประกาศระงับการให้เงินทุนใหม่แก่ UNRWA เป็นการชั่วคราว หลังจากที่อิสราเอลกล่าวหาว่าพนักงาน 12 คน จากทั้งหมด 13,000 คนของ UNRWA ในฉนวนกาซา มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มฮามาสในเหตุการณ์บุกโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566
ต่อมาในเดือนก.พ. วุฒิสภาสหรัฐได้ผ่านร่างกฎหมายตัดงบประมาณสำหรับ UNRWA ด้านฝ่ายสนับสนุนได้เรียกร้องให้รัฐบาลกลับมามอบเงินช่วยเหลือแก่ UNRWA อีกครั้ง ในขณะที่องค์กรด้านมนุษยธรรมต่าง ๆ กำลังทำงานเพื่อป้องกันการเกิดภาวะขาดแคลนอาหารในฉนวนกาซา
แหล่งข่าววงในสองรายเปิดเผยว่า เงินสนับสนุนดังกล่าวจะถูกระงับเป็นเวลาหนึ่งปี และจะมีการหารือรายละเอียดเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาในรูปแบบอื่น ๆ หลังจากที่ร่างกฎหมายได้รับการเผยแพร่ออกสู่สาธารณะอย่างเป็นทางการแล้ว
ทั้งนี้ ทาง UN ได้เริ่มสืบสวนข้อกล่าวหาต่อเจ้าหน้าที่ของ UNRWA โดยทางหน่วยงานดังกล่าวได้ไล่พนักงานบางส่วนออกหลังจากที่อิสราเอลส่งมอบข้อมูลมาให้
สหรัฐซึ่งเป็นผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดของ UNRWA โดยให้เงินทุน 300-400 ล้านดอลลาร์ต่อปีนั้น ประกาศว่าต้องการเห็นผลการสืบสวนดังกล่าวและมาตรการแก้ไขก่อนที่จะพิจารณากลับมาให้เงินทุนอีกครั้ง
อนึ่ง สงครามในฉนวนกาซาปะทุขึ้นเมื่อกลุ่มฮามาสบุกข้ามแดนเข้าไปในอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. คร่าชีวิตไป 1,200 คน และจับเป็นตัวประกัน 253 คน จากการรายงานของทางอิสราเอล
ด้านกระทรวงสาธารณสุขกาซาเปิดเผยว่า นับตั้งแต่เกิดสงครามในวันที่ 7 ต.ค. ประชาชนในฉนวนกาซาเสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลรวม 31,819 ราย บาดเจ็บรวม 73,934 ราย และคาดว่ายังมีผู้สูญหายอีกหลายพันคนภายใต้ซากปรักหักพัง